เหรียญ 7 เหรียญที่น่าจับตามอง
1 Litecoin (LTC)
เป็นสกุลเงินคริปโตที่สามารถขุดได้ด้วยอัลกอริทึม Scrypt
ทุกๆครั้งที่มี node ในระบบทำการตรวจสอบ transaction สำเร็จ จะทำให้ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 25 litecoin (ปี2017)
ในอีก 2 ปีข้างหน้าค่าตอบแทนจะลดลงครึ่งนึงเหลือ 12.5 ตาม กฎการลดลงของอัตราตอบแทนการขุด litecoin
และ litecoin คาดการณ์ว่าจะขุดได้จนถึงปี 2142 หรืออีกประมาณ 100 กว่าปีนั่นเอง
เหรียญ Litecoin เป็นเหรียญที่สร้างโดย นาย Charlie Lee อดีตพนักงานกูเกิ้ล โดยเป้าหมายของเหรียญ Litecoin นี้ ก็เพื่อการลดเวลาการทำธุรกรรม โดยนาย Lee บอกว่า อยากให้ Litecoin สามารถใช้ซื้อสิ่งของต่างๆได้จริง มีการเปรียบเทียบว่า หาก Btcoin เป็นทอง Litecoin ก็เปรียบเป็นเงิน
2 Monero (XMR)
สิ่งสำคัญที่สุดคือตลาดของ Monero ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับเงินดิจิตอลสกุลอื่น มันมีตลาดแลกเปลี่ยนอยู่ในทั้ง Kraken Bitfinex Poloniex หากอยากได้มันก็แค่เพียงไปยังตลาดที่กล่าวไว้ข้างตนใส่จำนวนที่ต้องการและซื้อมันมาและเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน
มันสามารถขุดได้เช่นกัน โดยจากไปจอยกับพูล ซึ่งจะทำให้คุณได้ส่วนแบ่งเป็น Monero เนื่องจากเงินสกุลนี้ใช้หลัก Proof of work ซึ่งหมายความว่ายิ่งมีหน่วยประมวลผลมากผลที่ได้ก็จะมากขึ้น ตอนนี้กำลังประมาลผลทั้งหมดของ Monero อยู่ที่ 81.84 mh/s ซึ่งจะได้ผลตอบแทนรอบละ 7.26 XMR หรือ 5367 XMR
ความสามารถในการเก็บความลับของ XMR คือจุดเด่นที่ XMR นั้นมี ซึ่งคุณสมบัตินี้ ทำให้เป็นที่ถูกใจสำหรับเหล่าอาชญากรไซเบอร์หรือเหล่าบรรดาแฮกเกอร์เป็นจำนวนไม่น้อย แต่จุดประสงค์จริงๆของผู้สร้างเหรียญ XMR ก็คือ ความสามารถในการโอนเงินได้ โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ล่วงรู้ต่างหาก
3 Cardano (ADA)
ทางผู้พัฒนากล่าวว่า Cardano เป็นบล็อกเชนเจเนอเรชันที่ 3 ที่ระบุและแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นในบล็อกเชนยุคก่อนๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ความสามารถในการเพิ่มขยาย (Scalability), ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) และ ความยั่งยืน (Sustainability) ผ่านสถาปัตยกรรมแบบเป็นลำดับชั้น (layered architecture)
โดยปกติแล้ว White paper ทั่วไปจะประกอบไปด้วยโค้ด (Code) เป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากของ Cardano ตรงที่มันจะประกอบไปด้วย แนวคิดของหลักการดีไซน์, การดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็น Cryptocurrency ตัวแรกๆเลยที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดปรัชญาที่อิงหลักการทางวิทยาศาสตร์และประกอบไปด้วยงานวิจัยทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เอง ทีมงานผู้พัฒนา Cardano จึงมั่นใจได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวิจัยหรือวิศวกรรมจะได้อ่าน ทบทวน และมีความเห็นที่ตรงกันต่อผลลัพธ์ที่สามารถเป็นไปได้
โดยเหรียญ ADA จะมีโครงการพัฒนาในครั้งต่อไป ในไตรมาสที่ 2 ในปี 2018 ซึ่ง CEO ของ ADA กล่าวว่า เหรียญ ADA ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของการทำงานข้ามเครือข่ายและการปรับขนาด
4 Neo (NEO)
มีฉายาอีกฉายาหนึ่งว่า เป็นเหรียญ Ethereum แห่งจีน
NEO เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจในอนาคตจะแตกต่างจากระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยทุกอย่างสามารถทำงานบน Block Chain การทำธุรกรรมถูกบังคับด้วย Smart Contract ทุกขั้นตอนของธุรกรรมมเชื่อถือได้ ไร้การโกง และโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องเปลืองกระดาษจดสัญญา ไม่ต้องมีศาลมาพิจารณาเมื่อเกิดข้อพิพาท ไม่ต้องจ้างทนายความมาให้เสียเงิน
การซื้อขายสินค้าบน NEO จะมีเพียงแค่คนซื้อ และคนขายเท่านั้น ทันทีที่ตกลงซื้อขายกัน การซื้อขายนั้ก็ถูกบังคับด้วย Smart Contract ไม่ต้องมีคนกลางมายุ่งเกี่ยว ทำให้ต้นทุนประหยัดกว่าวิธีการทำธุรกิจในรูปแบบปัจจุบัน
5 Ripple (XRP)
สำหรับบางคน ให้เครดิตไว้ว่า เหรียญ XRP จะสามารถเป็นตัวตายตัวแทนของ Bitcoin ได้อย่างแน่นอน โดย บริษัท Ripple มีการขายใบอนุญาต Blockchain ของตัวเองให้กับธนาคารมากมายกว่า 100 แห่ง และทางพวกเขากล่าวว่า เหรียญ Ripple เป็นมิตรกับธนาคาร และเป็นมิตรกับทุกรัฐบาล
6 Iota (MIOTA)
โปรโตคอลการพิสูจน์ควอนตัมของมัน มีรายงานว่า 'ศูนย์ค่าธรรมเนียมความสามารถในการขยายขีด จำกัด ไม่มีที่สิ้นสุดธุรกรรมที่รวดเร็วและการถ่ายโอนข้อมูลที่ปลอดภัย'IOTA คือ หนึ่งในเทคโนโลยี Distributed Ledger หรือถ้าแปลเป็ฯภาษาไทยคือ ฐานข้อมูลที่เชื่อมต่อกันบนระบบ network โดยไม่มีศูนย์กลางคอยควบคุม
ซึ่ง IOTA จะทำหน้าที่คล้ายๆ Blockchain ใน cryptocurrency แต่มีการพัฒนาปรับปรุงข้อเสียต่างๆของ Blockchain ให้ดียิ่งขึ้น
IOTA เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อเป็นโครงสร้างหลักในการสื่อสารส่งถ่ายข้อมูลของ IOT (Internet of Thing)
และเน้นการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมๆกัน
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ผู้สร้างเล็งเห็นถึงความสำเร็จของ Bitcoin กับเทคโนโลยี Blockchain
แต่มันยังไม่ใช่คำตอบของเทคโนโลยี Blockchain และยังไม่เหมาะกับการนำมาพัฒนา application อื่นๆนอกเหนือ cryptocurrency
โดยเฉพาะ micro-transaction (เช่นการโอนจำนวนเล็กน้อย) ที่ยังมีปัญหาเรื่องเสียค่าธรรมเนียม
ซึ่ง micro-transaction เนี่ยแหละคิดเป็นเปอร์เซนต์ส่วนใหญ่ใน transaction ทั้งหมด
ผู้สร้างจึงคิดค้นคำตอบใหม่ๆ IOTA และ Tangle (3rd generation of Blockchain) ขึ้นมา
เพื่อรองรับการเชื่อมต่อและการทำธุรกรรมระว่างอุปกรณ์ต่างๆ Internet of Things ในอนาคต“Tangle” คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี IOTA
Tangle เป็น generation ที่สามของเทคโนโลยี Blockchain
หน้าที่ของ Tangle คือคอยส่ง, ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลต่างๆบน network ไม่ว่าจะเป็น currency, data หรือ resource ใดๆก็ตาม
Tangle เป็น Blockchain ที่ไม่ต้องพึ่งเหล่า Miner ในการตรวจสอบและบันทึก transaction
เพราะหลักการทำงานของมันคือ เวลาเราทำ transaction หรือโอนเงินจำนวนหนึ่ง ซอฟต์แวร์ของเราก็จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ transaction 2 อันก่อนหน้านี้ในระบบเช่นกัน (ดูได้จากกราฟ Tangle ข้างล่าง)
แทนที่จะใช้เหล่า miner ในกระบวนการเหล่านี้ ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม กลายเป็นจุดเด่นของ Tangle และ IOTA
ยิ่งมีจำนวนผู้ใช้งานใน network พร้อมๆกันจำนวนมาก ยิ่งทำให้ธุรกรรมต่างๆหรือการส่งผ่านข้อมูลมีประสิทธิภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ต่างกับ Blockchain ทั่วๆไป พอผู้ใช้งานเริ่มเยอะก็จะเริ่มเป็นคอขวดต่อเหล่า miner ในการตรวจสอบ transaction
ส่งผลให้ผู้ใช้งานต้องรอนานขึ้น
เหรียญ MIOTA เป็นเหรียญที่ ไม่มีทั้ง ค่าธรรมเนียม ไม่มีการขุดเหมือง ไม่มีบล๊อค ในอีกแง่หนึ่ง มันเป็นกระดูกสันหลังของ ระบบจ่ายเงินแบบ Machine-To-Machine ในยุคของ Internet Of Things (IOT)
7 Basic Attention Token(BAT)
AT หรือ Basic Attention Token คือเหรียญที่ทางผู้ให้บริการเว็บ Browser ที่ชื่อ Brave ทำออกมา โดยมีจุดประสงค์คือให้นักการตลาดออนไลน์รวมไปถึงนักทำคอนเทนท์สามารถหารายได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง โดยเว็บ Browser นี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือความเป็นส่วนตัวและยังคอยปิดโฆษณาตามเว็บไซต์ที่ทำให้เรารู้สึกรำคาญ
Browser Brave เปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2016 แต่ระดมทุน ICO ในเดือนพฤษภาคมปี 2017 โดยหลังจากนั้นทาง BAT ก็มาเริ่มพัฒนาตัว Browser Brave นี้ โดยเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 ทาง Brave ได้ออกฟีเจอร์สำหรับ Publisher ว่าสามารถรับรายได้เป็นเหรียญ BAT จากการอัป VDO ผ่านช่องทาง Youtube บน Browser Brave ได้แล้ว หลังจากนั้นทาง Brave ก็ได้ประกาศในเดือนพฤษภาคมปี 2018 ว่ามียอดผู้ดาวน์โหลดทะลุ 5 ล้านครั้ง และเดือนสิงหาคมมียอดผู้ดาวน์โหลดกว่า 10 ล้านครั้ง
อัตราการใช้งานเว็บ Browser อย่าง Brave มีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยกว่า Google Chrome หรือ Safari Brave ยังคงห่างไกลจาก 1 เปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งในการใช้งานถ้าเทียบกับ Browser อื่น ๆ แต่ในอนาคตอาจมีศักยภาพในการที่จะมาเป็น 1 ในเว็บ Browser ชั้นนำก็เป็นได้
เครดิตคัดลอกจาก http://icryptonian.com/
,https://siamblockchain.com/ ,https://support.bitkub.com ,https://cryptothailand.com/
Hello @gotobangkok! This is a friendly reminder that you have 3000 Partiko Points unclaimed in your Partiko account!
Partiko is a fast and beautiful mobile app for Steem, and it’s the most popular Steem mobile app out there! Download Partiko using the link below and login using SteemConnect to claim your 3000 Partiko points! You can easily convert them into Steem token!
https://partiko.app/referral/partiko