สวัสดีครับผมอัครวัฒน์ เหล่าฝ้าย(Akarawat Laofai) รู้สึกยินดีมากเลยครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Steemit ต้องขอขอบคุณเพื่อนผมครับที่แนะนำให้ได้รู้จักกับ Steemit ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนครับ แบ็คกราวผมก็คือ Navy seal หรือทหารเรือครับ ทำงานรับราชการในกองทัพเรือเป็นเวลา 16 ปี 8 เดือน ครั้งแรกในการสมัครสอบเข้าเป็นทหารเรือ ผมเลือกที่จะเลือกพรรคนาวิกโยธิน เพราะเป็นทหารที่มีวินัยดีที่สุดของกองทัพเรือเลยก็ว่าได้ และอีกอย่างหนึ่งคือความเป็นสุภาพบุรุษของทหารนาวิกโยธิน ถึงแม้ว่าจะมีหลายเสียงที่บอกว่า นาวิกโยธินฝึกโหดและหนักมาก เพราะผมในตอนนั้นก็เป็นคนที่ตัวเล็กๆ ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็ด้วยใจที่อยากจะเป็นนาวิกโยธิน ดังคำกล่าวที่ว่า "เมื่อได้เป็นทหาร นาวิกโยธินซักครั้งไซร้ จักฝังฤทัยจนวายปราน" ในเดือนแรกถือเป็นอะไรที่หนักเอาการเหมือนกัน ทั้งเรื่องการฝึก การปรับสภาพให้อยู่ได้ในสภาวะที่กดดัน กดดันในเรื่องเวลาที่ต้องทำตามตารางเวลาทุกอย่าง ตั้งแต่ตื่นนอน เก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟัน ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร เข้ารับการเรียนรู้ตามรายวิชาทหาร ..จนถึงเวลานอน เสื้อแทบไม่มีเวลาแห้ง อดทนต่อความหิว ที่บางมื้อได้กินแค่นิดเดียวหรือไม่ได้กินแต่ก็ต้องเอาแรงมาฝึกมาทำกิจกรรมเหมือนเดิม อดทนต่อความง่วง ที่บางวันโดนทำโทษจนดึก เรียนรู้ในบางวิชาที่จนถึงเวลากลางคืน และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง อดทนต่อความเหงา ที่ต้องคิดถึงพ่อ พี่สาว และคนทางบ้าน ฝนตกลงมาทีไรทำให้นึกถึงเวลาที่ออกไปทำนา ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว แต่ก็ได้อะไรหลายอย่างมากมายตลอดช่วงเวลา 2 ปี ที่เป็นนักเรียน พอครบเวลาที่ต้องแยกย้ายจากกันเพื่อที่จะออกมาทำงานรับราชการเป็นครั้งแรกก็เป็นอะไรที่ดีใจมาก เหมือนยักษ์ที่ออกจาดขวด อยากทำโน่นนี่นั่นที่ตัวเองอยากทำ แต่ชีวิตการรับราชการก็จะแตกต่างจากการเป็นนักเรียนเราต้อง
ดูแลตัวเองแล้ว ไม่มีครูคอยบอกเราคอยเตือนเราเหมือนเดิมแล้ว ต้องคิดเองทุกอย่าง ถ้าคิดผิด หลงแสง สี เสียง ก็เสียคนไปเลยก็มี เหมือนเพื่อนผมที่ได้ภรรยาเป็นเด็กเสริฟ ชวนกันกินเหล้า เที่ยวอย่างเดียว เงินเก็บไม่ต้องพูดถึง เหลือถึงชนอีกเดือนก็เป็นอะไรที่สุดยอดแล้ว ผมรับราชการหลังจบออกมาที่กองพันทหารช่าง อยู่ 3 ปี ช่วงนั้นก็เรียนต่อ เพื่อเอาวุฒิ ปริญญาตรีด้วย โดยเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช เรียนอยู่ได้ 24 หน่วย ก็เลยคิดว่าในเมื่อได้บุ๋นแล้ว ไปเอาบู๊หน่อยก็น่าจะดีด้วย เลยมาเลือกเรียนหลักสูตร นักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือที่เขาเรียกกันว่า "มนุษย์กบ" ซึ่งเป็นหลักสูตที่ถือว่าเป็นเบอร์1 ของประเทศเลยก็ว่าได้ ในเรื่องความโหด ความบ้า ระยะเวลาที่ยาวนาน โดยเรียนอยู่ 7 เดือนเต็ม ซึ่งรุ่นผมที่เข้ามาเรียนพร้อมกันวันแรกมีประมาณ 90 คน ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 เดือนจนถึงวันจบมีเพื่อนที่ร่วมสำเร็จด้วยกัน 26 คนแบ่งเป็นกองทัพเรือ22 คนและกองทัพบก4 คน ตลอดระยะเวลา7 เดือนมันเหมือนเราตายแล้วเกิดใหม่ เพราะวันแรกของเป็นนักเรียนทุกคนจะเซนต์ใบตาย คือถ้าเกิดอะไรในช่วงการฝึก กองทัพจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ถ้าตายญาติก็เรียกร้องอะไรไม่ได้ ความลำบากของหลักสูตรนี้จะวัดใจเราได้ก็ช่วงสัปดาห์นรก หรื อ Hell Week จะฝึกปัญหา120 ชั่วโมง นักเรียนทุกคนต้องผ่านปัญหาไปให้ได้ตลอด 120 ชั่วโมง ซึ่งครูฝึกก็จะใส่ปัญหาให้นักเรียน ไม่ว่าจะเป็น ความเหนื่อย ความง่วง ความหิว ซึ่งตลอดปัญหาจะไม่มีการนอนเลย ยอมรับว่าเหนื่อยมากช่วง2 วันแรก พอวันที่3 เริ่มจะไปเรื่อยตามเกมส์ครูฝึก ตามเพื่อน จะคิดไม่ได้แล้ว สมองจะเบลอไปเลย คิดดูวันสุดท้ายครูฝึกให้ตอบคำถามอัตนัย 10 ข้อ คำถามง่ายๆ ผ่านไปชั่วโมงยังเขียนไม่ได้ซักข้อเลย ซักตัวก็เขียนไม่ได้เลยก็ว่าได้ นั่งอยู่แบบนั้น จะเขียนซักตัว ตาก็จะหลับ ครูฝึกก็ต้องมากระตุ้นให้ตื่น โดยเอาไม้ตีหัว ตีตามร่างกาย ก็สะดุ้งมาพักก็เบลอต่อ ถือว่าช่วงเวลานั้น ครูฝึกจะตี จะทำอะไรก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่พอจบปัญหา 120 ชั่วโมง ครูฝึกก็จะปล่อยให้นักเรียนพัก ยอมรับเลยว่าขนาดไม่ได้นอนมา5 วัน 5 คืน ดอนอนสุดๆ แต่พอให้นอนจะนอนไม่หลับ ตาแข็งมาก ผ่านสับดาห์นรกมาก็เหมือนเราจบไปครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะเวลาที่เหลืออีกหลายเดือน จะมีปัญหาอะไรผ่านเข้ามาก็พร้อมที่จะสู้ได้หมด แต่ก็มีเพื่อนหลายคนที่ต้องออกจากการฝึกหลังผ่านสัปดาห์นรกมา เดือนสุดท้ายของการฝึกหลักสูตรจะเป็นปัญหาภาคทะเลและภาคป่า ปัญหาที่ได้รับก็จะเหมือนเดิมคือ ความเหนื่อย ความง่วง ความหิว ต้องอดทนสุดๆต่อปัญหาที่ครูฝึกจะทดสอบเรา ต้องยอมรับว่าร่างกายช่วงนี้ถือว่าพีคสุดๆก็ว่าได้ แม้เราจะเหนื่อยขนาดไหน เพลียขนาดไหน โดนครูฝึกซ่อมตั้งแต่2 ทุ่มยันตี4 ซึ่งฝนก็ตกตลอด แล้วครูก็ให้นอนตรงลาน และตากฝนตรงนั้นเลย นอน1 ชั่วโมงโดยมีหมวกปิดหน้าอย่างเดียว เราก็หลับได้เฉยเลย ทั้งที่ฝนก็ตกใส่ตัวตลอด แล้วมาตื่นตอน ตี5 ฝนหยุดแล้ว พวกเราก็พากันเก็บของใส่เป้ แล้วรับปัญหาที่ครูฝึกมอบให้ ออกปฏิบัติภารกิจต่อไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทำได้ดีด้วย ปัญหาสุดท้ายของหลักสูตรนี้คือ ปัญหาเชลยศึก ไม่ต้องอธิบายว่ามันจะสบายขนาดไหน ความหมายมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ต้องยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ยอมทุกอย่างยกเว้นความลับของทางราชการห้ามเปิดเผยออกมา มีความตายเท่านั้นที่จะแลกได้มาซึ่งความลับ ในตอนนั้นคิดว่าถ้าเราไม่ตายก็สำเร็จหลักสูตร มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก ครูฝึกจะทำทุกอย่างที่จะได้มาซึ่งความลับ ข้อมูลข่าวสาร แต่เราก็คิดเหมือนกัน ว่าแม้ตายก็ไม่ยอมบอก สุดท้ายก็ผ่านมาด้วยอย่างภาคภูมิใจ และเราก็ได้หลบหนีครูฝึต่อเนื่องโดยห้ามให้ครูฝึกจับได้ ถ้าจับได้มีโทษหนัก โดยจะให้ไปรายงานตัวตามพิกัดที่ครูฝึกกำหนดให้ ในการเดินทางห้ามใช้ยานพาหนะ สุดท้ายเราก็ผ่านปัญหาสุดท้ายมาได้ พร้อมสำเร็จหลักสูตรกับเพื่อนร่วมรุ่น อีก25 คน จบบทบาทกับการรับราชการที่กระทรวงกลาโหม ก็โอนย้ายมารับราชการที่ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย ทำงานในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอบเขตของงานก็จะรับผิดชอบเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของประชาชนเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ด้านการป้องกันและช่วยเหลือด้านอุบัติเหตุ ด้านสาธารณภัยต่างๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ภัยหนาว ภัยแล้ง หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆเช่น สัตว์หรืองูเข้าบ้าน เราก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอ ซึ่งการทำงานเหมือนปิดทองหลังพระ ดังพระบรมราโชวาทของพ่อหลวง ร.9 ของเรา "การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็น ก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้ว คนโดยมาก ไม่ค่อยชอบ"ปิดทองหลังพระ"กันนัก เพราะว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้...." ซึ่งการทำงานด้านนี้ต้องอาศัยใจรักเพราะเป็นงานด้านการบริการ การช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเหตุสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ไม่ได้เลือกว่าต้องเกิดตอนนั้นตอนนี้ สำหรับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ทำมา 2 ปีทำให้เราได้เครือข่ายของประชาชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ภายในพื้นที่ การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชนในพื้นที่ การมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่เพื่อรณรงค์ให้ เยาวชน ห่างไกลยาเสพติด โดยส่งเสริมให้เล่นกีฬา และออกกำลังกายกัน การตั้งจุตรวจและจุดบริการเพื่อบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ การจัดฝึกอบรมให้เยาวชนที่ติดยาเสพติดและห่างไกลยาเสพติดและเลิกยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ตลอดจนการแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆเช้นปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำไม่ไหล ก็ดำเนินการแก้ไขให้เร็ว รวมถึงด้านอื่นๆดำเนินการร่วมกับประชาชนในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งน้ำตื้นเขิน แหล่งน้ำเสียเพื่อให้กลับมามีแหล่งน้ำเพียงพอในการอุปโภคและไม่ให้เน่าเสีย ครั้งนี้ผมก็ขอแนะนำตัวคร่าวๆให้กับพี่ๆเพื่อนๆได้ทราบเพียงเท่านี้ก่อน ครั้งต่อไปจะมาเล่าประสบการณ์ด้านการทำงานและด้านกีฬา หรือด้านอื่นมาให้ได้อ่านกันนะครับ ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับผม ....อัครวัฒน์ ...เอส..
ยินดีต้อนรับนะคะ
ขอบคุณครับผม
@akarawat สวัสดีจ้าเอส ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว steemit จ้า เขียนดีมากๆค่ะ อ่านแล้วตื่นเต้นตามเลย มนุษย์กบสุดยอด รอบหน้าลงตราสัญลักษณ์พร้อมความหมายให้อ่านบ้างนะ
เป็นกำลังใจให้ และรอติดตามจ้า
แม่ทีมค่ะ ที่นี้ steemitนะค่ะ จะมาชิตะได้ไง 555 เล่นมุขหรือตั้งใจ อิๆ
ขายของมากไปหน่อย แก้ละคร้า ขอบคุณน้า @winutcha
ไม่เป็นไร น่ารักดี เพื่อนทิพย์มีความตั้งใจสูงในทุกๆ เรื่อง อิๆ
ขอบคุณมากเพื่อน..
ยินดีต้อนรับนะค่ะ อ่านแล้วน่าจะมีเรื่องราวมาแชร์ได้อีกเยอะเลยนะค่ะ ไม่คิดว่าจะได้อ่านเรื่องราวการฝึกสุดโหดจากเพื่อนใหม่ใน steemit ดีใจจังมีเพื่อนหลากหลาย ติดตามอ่านเลยค่ะ สงสัยอะไรถามได้นะค่ะ
ขอบคุณครับ
welcome to steemit akarawat and enjoy stay here .
Thank you so good
สุดยอดมากเลยครับพี่ ผมเคยดูเรื่องราวมนุษย์กบในยูทูบ ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่เรียนจริงๆ เก่งมากๆเลยครับ ไว้มาเล่าเกี่ยวกับมนุษย์กบอีกนะครับ ผมชอบอ่านครับ
ครับผมยินดีเล่าสู่กันฟังครับ ตอนแรกๆก็คิดจะเรียนหลักสูตรรบพิเศษแหละครับ แต่คิดว่าจะเรียนอะไรดี เลยตอบตัวเองว่า ไหนไเหนื่อยแล้วก็เอาอะไรที่มันสุดๆไปเลยนะ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ พี่เท่ห์มากๆเลยครับ ผ่านหลักสูตรที่สุดยอดระดับโลกมาได้ เก่งมากเลยครับ ติดตามรออ่านต่อไปครับ
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว Steemit ค่ะ
ครับผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีต้อนรับคุณเอส @akarawat นะคะ
อ่านเรื่องราวแนะนำตัวจนจบ นับถือมากเพราะรู้มาจากหลายๆท่านว่ามันไม่ง่ายเลย สำหรับการฝึกและรอดมาได้ ตุ๊กติ๊กเคยทำ event ให้กับลูกค้าทำ talk show คุยเรื่องของการบุกของทหารอเมริกันในอัฟกานิสฐาน (ตาลีบัน) ลูกค้าท่านนี้ชื่อว่า Marcus Luttrell เจ้าของประสบการณ์ตัวจริงของภาพยนต์เรื่อง Lone Survivor จากวันนั้นตุ๊กติ๊กนั่งฟังเค้าเล่าเรื่องประสบการณ์การฝึกและการรบรวมทั้งการรอดชีวิต ความผิดพลาดของทีม คือฟังแล้วหันไปถามสามีว่า "เธอฝึกแบบนี้ได้มั้ย" สามีตอบว่าตายตั้งแต่วันแรก
ดีใจนะคะที่ได้อ่านเรื่องราวจากทหารไทยที่นี่ตัวจริงเสียงจริง เป็นกำลังใจให้และจะคอยติดตามอ่านเรื่องราวต่อๆไปนะคะ
ตุ๊กติ๊ก
ครับผม ขอบคุณครับ ยินดีจะเล่าให้ฟังครับ เพราะบางคนที่ผ่านหลักสูตรมาได้ สติสัมปชัญญะจะแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ เช่น ตี3 มาออกกำลังกาย มาทำโน่นนี่นั่น อะไรทำนองนี้ ครับ
ติดตามนะคะ
ยินดีต้อนรับค่ะ จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณครับ เช่นกันครับผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ
สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับนะคะ😊
ครับผม ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ สุดยอดชายแกร่งแห่งปี 555
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ไม่แกร่งหรอกครับ นิดหน่อยเองครับ
ยินดีต้อนรับครับ
ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีต้อนรับสู่ชุมชนไทย ครับ
สวัสดีครับ สำหรับผู้ใหม่ ดูบทความ เพิ่มเติม ในการใช้ แท็ก #thai ที่ลิงค์ด้านล่างได้นะครับ
บทความที่มีประโยชน์ต่อชุมชน steemit thai
https://steemit.com/promo-steem/@prapanth/steemit-thai-b6085a5735a22
สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีต้อนรับค่ะ :-)
ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีต้อนรับครับคุณเอส ^^
ขอบคุณครับผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ เอาไว้มาแชร์ประสบการณ์กันครับ
ยินดีต้อนรับครับ
ครับผมขอบคุณมากครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ