สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว steemit ทุกคน อ้อได้อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าโดนมากๆมันเป็นเรื่องจริงนะ เพียงแต่เราไม่เคยคิดไม่เคยใส่ใจก็เท่านั้น ลองอ่านดูนะคะน่าจะเป็นประโยชน์ได้ดีเลยทีเดียว
ช่วงอายุ 20 ถึง 30 เป็นช่วงที่เต็มไปด้วยคำถามชวนปวดหัว อย่างเช่น จะแต่งงานเมื่อไหร่? หาที่อยู่แถวไหน? ทำงานอะไรดี? แต่หากคุณยังหาคำตอบให้คำถามพวกนี้ไม่ได้ล่ะก็ บางทีคุณน่าจะลองถามคำถามอื่นที่จริงจังกว่านี้ดูนะ ด้วย 7 คำถามในการดำรงชีวิตที่ถูกคัดเลือกมาแล้วจากเว็บไซต์ Quora ซึ่งคนหนุ่มสาววัยนี้ควรหาคำตอบให้พบ เพื่อให้เห็นภาพของสิ่งที่คุณต้องการและสิ่งที่จำเป็นในชีวิต หวังว่ามันคงช่วยทำให้คุณตัดสินใจทั้งในเรื่องงานและความสัมพันธ์ได้ง่ายยิ่งขึ้นนะ
แต่อย่าลืมว่า...ไม่มีคำตอบไหนที่จะถูกต้องเสมอไป และคำตอบที่คุณมีก็มักจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ประเด็นที่แท้จริงอยู่ที่จุดเริ่มต้นที่คุณคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะประสบความสำเร็จในชีวิตข้างหน้า รวมถึงวิธีที่จะทำให้มันสำเร็จต่างหากล่ะ
1.ถ้าพรุ่งนี้คุณต้องตายไป คุณพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้วหรือยัง?
ตอนนี้คุณอาจจะคิดว่าชีวิตคุณยังเหลือเวลาให้ใช้ชีวิตอีกหลายสิบปี แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะมามัวรีรอไม่ทำตามฝันสักที จงรีบทำตั้งแต่วันนี้และตอนนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ
ถ้าคุณไม่ชอบชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ล่ะก็ การใช้เวลาเพื่อคิดทบทวนเพื่อหันมาจัดการกับเวลาของคุณเป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตไม่ได้มั่นคงเสมอไปหรอกนะ พรุ่งนี้อาจจะไม่มาถึงก็ได้ เพราะฉะนั้น แม้ว่าการวางแผนอนาคตชิ้นใหญ่เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่คุณเองก็ต้องไม่ลืมที่จะดื่มด่ำกับชีวิตที่กำลังดำเนินไปในปัจจุบันด้วย
2.อะไรคือคุณค่าที่เป็น ‘เอกลักษณ์เฉพาะตัว’ ของคุณ?
จริงๆ แล้ว มันก็แปลง่ายๆ ว่า ‘อะไรบ้างที่มีแค่ตัวเราเท่านั้นที่ทำได้?’ หรือ ‘มีสิ่งไหนที่ฉันทำได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่คนอื่นคิดว่ายากบ้างไหม?’ นั่นล่ะ ซึ่งถ้าหากลองมาดูในโลกธุรกิจ เราก็มักจะพูดถึงสิ่งคล้ายกัน ที่เรียกว่า ‘การสร้างคุณค่า’ (value proposition) นั่นเอง ว่าคุณมีอะไรที่โดดเด่นมานำเสนอบ้าง? จุดขายคุณคืออะไร? แล้วมันมีค่ามากแค่ไหน?
เมื่อคุณค้นพบคุณค่าหรือความสามารถในตัวเอง คุณจะพัฒนาตนเองให้ชำนาญในด้านนั้นๆ ได้ เหมือนอย่างที่ A. J. Agrawal ผู้บริหารบริษัท Alumnify แนะว่า “จงหาช่องทางติดตามข่าวที่เหมาะกับคุณไว้สัก 3-4 แหล่ง และอย่าลืมติดตามอ่านข่าวพวกนี้ทุกวัน เริ่มต้นง่ายๆ จากการแชร์บทความที่คุณสนใจบนโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ได้ แล้วลองพัฒนาไปเป็นการเขียนบล็อคหรือบทความที่สนใจด้วยตัวเองดู ผู้คนจะค่อยๆ รับรู้ว่าคุณเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นจริงๆ”
3.ใครที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณมากที่สุด?
ใครที่คุณมองเป็นแบบอย่างมากที่สุด? แล้วอะไรที่ทำให้คุณอยากเป็นแบบพวกเขา? ลองเขียนคำตอบที่ผุดขึ้นมาในความคิดเอาไว้ คนที่คุณอยากยึดเป็นแบบอย่างนั่นแหละ ที่จะตอบคุณได้ว่า คุณคาดหวังจะเป็นอย่างไรในอนาคต
4.ในทุก ๆ วัน...คุณตื่นขึ้นเพื่ออะไร?
คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการถามว่า เป้าหมายของคุณคืออะไร? ซึ่งการตอบคำถามนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าตอบได้ คุณจะชัดเจนในเป้าหมายของตัวเองขึ้นอีกมาก และยิ่งคุณหามันเจอเร็วเท่าไหร่ คุณก็เริ่มทุ่มกำลังให้กับมันได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
5.วันนี้คุณได้เรียนรู้อะไรไปมากแค่ไหน?
เมื่อคุณอยู่ในช่วงอายุเลข 2 เส้นกราฟการเรียนรู้ของคุณควรจะพุ่งสูงมาก ดังนั้น จงเรียนรู้ให้มากเข้าไว้ในแต่ละวัน และอย่าลืมจดบันทึกสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ในแต่ละวันเอาไว้ด้วย การทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำนับว่าเป็นสิ่งที่ดีและควรจะทำถึงแม้อายุจะย่างเข้าเลขหลัก 3 หรือมากกว่านั้นแล้วก็ตามที เพราะเป้าหมายของคุณควรจะเป็นการที่คุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในทุกวัน เพื่อพัฒนาวิธีคิดและทัศนคติการดำรงอยู่ต่อโลกที่ผันแปรไป
6.ใครคือคนที่คุณรักที่สุด แล้วคุณได้บอกหรือแสดงออกไปแล้วหรือยัง?
Adam Rifkin ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ PandaWhale กล่าวว่า อย่านึกเอาเองว่าเพื่อนและครอบครัวของคุณจะเข้าใจความรู้สึกของคุณได้ แต่จงทำให้พวกเขารู้ว่าคุณใส่ใจพวกเขามากแค่ไหน ซึ่งจาก การศึกษา ของฮาวาร์ดก็ยังพบว่า ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดนี้ คือกุญแจที่นำไปสู่ความสุขและชีวิตที่ยืนยาวด้วย
7.‘ความสำเร็จ’ สำหรับคุณหมายถึงอะไร?
คำถามนี้เป็นคำถามที่พัฒนาชีวิตคนเราอย่างมาก เราทุกคนล้วนมีอุปทานหรือสิ่งที่ต้องการต่อความสำเร็จ เช่น อำนาจ ชื่อเสียง หรือเงินทอง แต่ความสำเร็จแท้จริงแล้วไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่สิ่งที่กล่าวมาหรอกนะ บางทีความสำเร็จนั้นก็อาจหมายถึง การได้ค้นพบความสงบในจิตใจก็เป็นได้ หรือการได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมความสามารถของคุณก็ย่อมได้ ดังนั้น คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ‘ความสำเร็จ สำหรับคุณนั้นหมายถึงอะไร?’ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตตอนนี้ และอนาคตข้างหน้า
Source: Business insider
Editor staff of sumrej.com
และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่คอยติดตามนะคะ🤗🤗
เป็นบทความที่ดีมากๆเลยครับ โดยเฉพาะข้อ 6 อ่านแล้วสะดุ้งเลย บ้างครั้งความรักของเรามีต่อคนรอบข้างมากมาย แต่เราไม่ได้แสดงออกคิดเอาเองว่าเขาจะเข้าใจ ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่ได้คิดเหมือนเราก็ได้ ดังนั้นการแสดงออกหรือการบอกถึงความรักที่เรามี เป็นวิธีการที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายรับรู้เท่าๆกัน ^_^
โห คุณก็เขียนดีมากๆค่ะ