สวัสดีเพื่อน Steem ทุกๆท่านคะ วันนี้ดิฉันมาเล่าประสบการณ์การรักษาโรคไทรอยด์เนื้องอกกันคะ ดิฉันอายุ 38 ปี ก่อนหน้านี้ 3 ปี รู้สึกว่ามีก้อนที่คอด้านซ้าย แต่เป็นก้อนเล็กๆไม่ใหญ่มาก เลยไปหาหมอ แผนกหู คอ จมูก
(ในรูปจะเห็นมีก้อนนูนที่คอคะ)
หมอตรวจและบอกว่าเป็นไทรอยด์ ให้ยามาทาน ก่อนอาหารเช้า 1 เม็ด เป็นยาสำหรับคนที่ไทรอยด์ต่ำ กินอยู่สัก 3 เดือนก็จะพบหมอ 3 เดือนครั้ง พอทานยาอยู่ประมาณ 6 เดือนพบว่าก้อนโตขึ้นกว่าเดิม หมอสั่งเพิ่มยาให้ทานยา 1 เม็ดครึ่ง ทานยามา 6 เดือนก้อนก็โตเพิ่มขึ้นอีก. หมอเพิ่มยาเป็น 2 เม็ด ทานยามาสักระยะหนึ่งหมอบอกว่ายาไม่เอาไม่ทานก็ได้เพราะทานยาแต่ก้อนเนื้อที่คอก็ยังโตขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อทานยาก็ทำให้ผมร่วงมากๆใจสั่นร่วมด้วย แต่ฉันก็ยังคิดว่ายาจะช่วยได้ทานยามารวมทั้งหมด 2 ปีครึ่ง อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย และก้อนโตจนหายใจลำบากกลืนอาหารลำบากและนอนลำบาก
(ในรูปตอนกลืนน้ำลายก้อนจะใหญ่ขึ้นมาก)
จึงถามหมอว่ามีวิธีอื่นรักษามั้ย ? หมอบอกผ่าตัดได้ ดิฉันจึงตกลงผ่าตัด. หมองดยาก่อนผ่าตัด 1 เดือน จึงนัดเตรียมตัวก่อนผ่าตัด 1 วันโดยการมานอนโรงพยาบาล(โรงพยาบาลตรัง)
ก่อนผ่าตัด 1 คืน มาวัดกระแสไฟฟ้าหัวใจ เอ็กซาเรที่ก้อนเนื้อที่คอ. วัดความดัน อดน้ำงดอาหาร ใส่สายน้ำเกลือ บอกเลยว่ากลัวอยู่เหมือนกัน ผ่าที่คอมีความเสี่ยงน้อย (หมอบอก)หมอให้กำลังใจมากกว่าเพราะที่รู้มาการผ่าตัดทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวหรือช้อค เสี่ยงตั้งแต่แรกเริ่มรมยาสลบแล้ว ในบางรายแพ้ยาสลบก็มี ส่วนตัวฉันพอรุ่งเช้าอีกวันก็อาบน้ำแต่งตัวรอผ่าตัดไม่นานก็มีบุรุษพยาบาลมาเข็นเตียงนอนไปรอที่ห้องผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดมาบอกว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรในการผ่าตัด เมื่อถึงเวลาก็เข้าไปที่ห้องผ่าตัดรมยาสลบหลับไปรุ้สึกว่าไม่นานมากพอรู้สึกตัวอีกที
ก็จะแน่นๆที่คอ จะมึนๆหน่อย พยาบาลมาถามว่า. คุณคะ!! คุณชื่ออะไรคะ??บอกพยาบาลหน่อยคะ!! ฉันยังมึนๆอยู่มาก แต่ก็จังจำชื่อตัวเองได้จึงบอกไปว่า บุษบาคะ พอพูดออกไปรุ้สึกว่าเจ็บในลำคอ(หลอดลม)มากๆกลืนน้ำลายยังลำบาก. พยาบาลเห็นว่าท่าทางจะเจ็บคอจึงบอกว่าไม่ต้องตกใจคะ คอใส่ทอช่วยหายใจจะเจ็บแบบนี้เองคะ เดียวจะค่อยๆหายไปเองหลังจากนี้ พอนอนพักฟื้นสักพักก็เข็นมาส่งที่เตียง น้าม้ายคนที่เฝ้าไข้ที่รออยู่ที่เตียงก็ดีใจมากที่ฉันมาถึงเตียงและฟื้นตัวมาแล้ว ตอนนี้มีสายน้ำเกลือ. สายระบายเลือดกับขวด 1 ขวดไว้รับน้ำมาจากสายระบายเลือดต่อมาจากที่คอ. หมอบอกว่าต้องระบายเลือดเสียและน้ำเหลืองออกไม่อย่างนั้นจะปวดบวมมากๆและอาจติดเชื้อได้ มียาฆ่าเชื้อให้ ยาแก้ปวดถ้าปวดแผลให้บอกพยาบาลมาฉีดได้ หลังผ่าตัดนอนโรงพยาบาลต่ออีก 3 คืน หมอก็เปิดแผนดู
แผลแห้งดีไม่ติดเชื้อหมอบอกให้พักฟื้นต่อที่บ้าน. ให้ยามากินต่อที่บ้านแล้วให้ไปล้างแผล7วันที่อนามัย
แผลที่ผ่าตัดไม่ต้องตัดไหมเพราะใช่ไหมละลาย และแผลก็แห้งดีหมอไม่ได้ให้กินยาไทรอยด์ต่อ นัดหลังผ่าตัดเสร็จ 1 เดือน เพื่อติดตามผล และสั่งให้ซื้อยาลบรอยแผลเป็นมาทาจะได้ไม่มีรอยแผลเป็น หมอนัดหลังจากนี้อีก 6 เดือนเพื่อดูค่าไทรอยด์ในเลือด. รออยู่ว่าจะมีปัญหารึเปล่า ยังไม่ถึงวันนัดเลยมีญาติพี่น้องเป็นห่วงเป็นใยมากมายในการป่วยครั้งนี้ ทุกคนดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือกันทุกอย่างทุกทางไม่ว่าจะเป็นพี่ชายพี่สะใภ้ น้องสาว แม่ ลูกสาว และเพื่อนทั้งอยู่ใกล้อยู่ไกล ขอขอบคุณในน้ำใจที่มีให้กันมากมายรวมถึงทีมหมอพยาบาลโรงพยาบาลตรัง. และเจ้าหน้าที่อนามัยนาขาทุกๆท่านด้วย ขอขอบคุณจากใจจริงๆคะ ทั้งหมดที่รักษาไม่มีค่าใช้จ่ายคะ แค่ใช้สิทธิบัตร 30 บาท
ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ Steem. ทุกท่านที่ติดตามคะ. เรื่องนี้อาจจะเป็นตัวอย่างให้สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ได้ศึกษาคะ อยากบอกว่าการไม่โรคเป็นลาภอันประเสริฐคะ แต่เมื่อเป็นโรคแล้วก็ต้องรักษาคะ และที่สำคัญอย่าเครียดจนเกินไปโรคบางโรคเป็นได้ก็หายได้คะ แต่ถึงไม่หายก็ต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ❤สู้ๆๆๆๆ
ขอบคุณกำลังใจคะ คุณ @sunisa. หายจากไทรอยด์ก็มีโรคอื่นมาหาอีกแล้วคะ มากันเรื่อยๆเลยคะ. กำลังเตรียมตัวรับมืออยู่คะ