- พระพุทธเป็นพ่อ พระธรรมเป็นแม่ พระสงฆ์เป็นพี่
- พุทธะเป็นใครก็ได้ ถ้าเป็นผู้รู้ - ตื่น - เบิกบาน
- นิพพานในทุกความหมาย ไม่เกี่ยวกับความตาย
- นิพพานเป็นของได้เปล่า เมื่อสลัดตัวกูออกไปเสีย
- นิพพานในความหมายของชาวบ้าน (นิพฺพุโต) ก็มีอยู่
- นิพพานในปัจจุบัน (เมื่อจิตว่าง) เรียกสามายิกนิพพาน เป็นสิ่งควรสนใจ
- นิพพานหาพบได้ที่วัฏฏสงสาร
- นิพพานคือ “ตัวกู” ตายเสียก่อนแต่ร่างกายตาย
- ทำงานและมีชีวิตอยู่ด้วยจิตว่างจากตัวกู
- ทุกเรื่องและทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับจิตสิ่งเดียว
- ปากอย่างใจอย่าง หนทางแห่งยอดสุข
- กิเลสกับโพธิ์ ล้วนแต่เป็นสังขารธรรมด้วยกัน
- มีสติเมื่อผัสสะ ก็ไม่มีทางที่จะเกิดทุกข์
- เพชรในหัวคางคก (ความรู้ที่ทุกข์สอนให้) นั้นมีอยู่
- ตัวกู – ของกู จอมศัตรูตัวร้ายกาจ
- เหนือความหมายแห่งของคู่ทุกชนิด คืออิสระ
- เรื่องดี – ชั่ว สุข – ทุกข์ บุญ – บาป ยังมิใช่ความสงบ
- นรกสวรรค์ในพุทธศาสนา มีอยู่ที่อายตนะนั่นแหละ
- ที่มาแท้จริงของสุขและทุกข์ คือการทำผิดหรือทำถูก ต่อกฎอิทัปปัจจตา
- อย่าไปกินเนื้อกินผัก กินแต่อาหารไม่มีโทษก็พอ
- ฆราวาสธรรม มิใช่สำหรับฆราวาสจมปลักอยู่ในความเป็นฆราวาส แต่เพื่อพ้นจากความเป็นฆราวาส
- วรรณะโดยกำเนิด เลิกได้ โดยการงาน นั้นเป็นสิ่งที่ใครไม่สามารถเลิกได้
- พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มิได้ตรัสรู้ในมหาวิทยาลัย
- พระอรหันต์ทุกองค์ก็มิได้บรรลุในมหาวิทยาลัย
- ผู้ทำบุญไปสวรรค์ต้องรู้ไว้ว่า เทวดาเขาต้องจุติมาสุคติกันที่มนุษย์โลก
- คำว่าศาสนาในความหมายสูงสุด คือวิธีการเพื่อความรอด ทุกชนิดทุกระดับ
- แม้แต่สัตว์และต้นไม้พืชพันธุ์ ก็ต้องมีศาสนาตามแบบของตน ๆ คือระบบเพื่อความรอด
- สอนธรรมะยาก เพราะภาษาที่ใช้อยู่ มีไม่พอ
- คำว่าสังขาร แปลว่าของปรุง – การปรุง, มิใช่ร่างกายคร่ำคร่าสำหรับจะตาย
- พุทธศาสนาทำให้รู้จักทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิตในลักษณะที่ไม่เกิดทุกข์
- ชีวิตใหม่ คือชีวิตที่มีปัญหาและคำถามเกี่ยวกับความทุกข์จางลงและหมดไป
- ทั้งชั่วทั้งดีล้วนแต่อัปรีย์ (ไม่มีความสงบ) จะเอาความสงบต้องพ้นชั่วพ้นดี เหนือบาปเหนือบุญ
- ยิ่งเจริญคือยิ่งบ้าด้วยวัตถุ, ยิ่งบ้าก็ยิ่งเห็นว่าเป็นความเจริญ
- สิ่งเลวร้ายที่ต้องรู้จักเรื่องแรกที่สุด ก็คือเรื่องนิวรณ์ทั้งห้านั่นเอง, ถ้าไม่รู้จักก็ไม่อาจรู้เรื่องกิเลส
- การเป็นเกลอกับธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสนใจ
- หัวใจพุทธศาสนาที่สัญลักษณ์กางเขน “ตัดตัวกู”
- หัวใจพุทธศาสนาที่หน้าแรก ๆ ของไบเบิ้ล คือไม่ยึดติดในความดีและความชั่ว ซึ่งจะต้องตาย
- ทุกคนสามารถเป็นพุทธทาสได้ไม่มากก็น้อยแต่เขาไม่สนใจกันเสียเลย
- ความไม่ตายมี ๒ ชนิด : ไม่ตายทางกาย (สำหรับสัตว์), ไม่ตายทางวิญญาณ (สำหรับมนุษย์)
- คนเกลียดวัดเกลียดธรรมะ โดยมากไม่รู้สึกตัวว่าเกลียด จึงไม่มีความคิดที่จะหมุนเข้ามาหาธรรมะ
- วินัยเป็นสิ่งที่ทรงบัญญัติขึ้น, ธรรมะเป็นสิ่งที่ทรงพบแล้วแสดงออก: มันต่างกันอย่างนี้
- ชีวิตรอดอยู่ได้ด้วย “นิพพานชั่วคราว” ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มิฉะนั้นก็เป็นโรคประสาทและตายกันหมดแล้ว
- คนทั้งโลกอกตัญญูต่อ “นิพพานชั่วคราว” อย่างหลับหูหลับตา แล้วยังแถมเนรคุณ คือ เกลียดนิพพาน
- ศีลธรรมทุกข้อทุกระบบมีปรมัตถธรรมเป็นรากฐาน
- ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาวินาศ, กลับมาโลกาสงบเย็น แต่ก็ไม่มีใครสนใจกันเลย
- ปรมัตถ์ธรรมกลับมาโลกาสว่างไสว, ถ้าไม่กลับมาโลกามืดมนท์ แต่ก็มืดมนท์จนเป็นธรรมดาไปแล้ว
- มนุษย์กำลังสร้างโลกอยู่อย่างที่พระเจ้าทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งมองดูตาปริบ ๆ
- เด็ก ๆ นั่นแหละ คือผู้สร้างโลกในอนาคตที่แท้จริง
- ที่บูชาหน้าพระพุทธรูปนั่นแหละ ยิ่งจัดเท่าไรก็ยิ่งเป็นไสยศาสตร์ยิ่งขึ้นเท่านั้น
- ถ้าดูโลกที่พระเจ้ากำลังสร้างอยู่ บัดนี้จะยิ่งเห็นว่าพึ่งไม่ได้ และแถมยังไม่น่าไว้ใจอีกด้วย
- คนโง่พูดว่า มีแต่เวลากินเรา เราไม่อาจกินเวลา
- เมื่อเราตะกละ อาหารกินเรา, เมื่อเรามีสติ เรากินอาหาร โดยมากเป็นอย่างไร คิดดูเองเถิด
- แปลคำว่าปรโลกกันผิด ๆ จนกลายเป็นโลกหน้า, ที่แท้ก็คือโลกชนิดอื่น จากที่มีอยู่เป็นประจำที่นี่
- ยิ่งจุดธูปเทียน ก็ยิ่งเป็นไสยศาสตร์, อย่างดีก็เป็นพุทธศาสตร์สำหรับเด็กอมมือ
- กามารมณ์เป็นค่าจ้างเพื่อการสืบพันธุ์ อย่าไปสนใจใยดีหรือถึงกับบูชากันนักเลย
- ฉันไม่อาจให้ความร่ำรวย แต่ให้จิตที่แพงกว่านั้น
- พุทธบริษัทต้องพูดเป็น ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม
- คนหนึ่งพูดภาษาเงิน อีกคนพูดภาษาธรรมแล้วมันจะพูดรู้เรื่องได้อย่างไรกัน
- ภาษาพูดอย่างมีตัวตน คือภาษาคน พูดอย่างไม่มีตัวตน คือภาษาธรรม
- ระวังความเมตตาสงสารจะกลายเป็นความรัก (ทางเพศ) ขึ้นมาอย่างไม่ทันรู้ตัว
- จงจัดชีวิตประจำวัน ให้เต็มไปด้วยความหมายของนิพพาน คือความสงบเย็น
- เขารอรับรสของนิพพานกันต่อตายแล้ว ทั้งที่อาจรับได้ที่นี่และเดี๋ยวนี้
- การงานทุกชนิดสอนให้เราฉลาดขึ้นนิดหนึ่งเสมอไป แม้ที่สุดแต่การกวาดขยะ
- สิทธิเสมอภาคของสตรีทำให้โลกหมดพ่อแม่มีเหลืออยู่แต่กะเทย
- โบสถ์ที่พระเจ้าอย่างบุคคลสร้างขึ้น มีแต่จะปิดลง ๆ แต่โบสถ์ที่อิทัปปัจจยตาสร้างขึ้นมีแต่จะเปิดเพิ่มขึ้น ๆ
- โลกต้องมีศาสนาครบทุกชนิด มีศาสนาเดียวไม่ได้, แต่ต้องทำความเข้าใจกันได้
- เตรียมตัวอยู่ร่วมโลกกับคนบ้าด้วยกัน จงทุกคนเถิด
- พูดอย่างถูกต้องที่สุดก็ว่า “ไม่มีนิวรณ์นั่นแหละคือความเป็นสมาธิ”
- เรียนธรรมะในป่า มีนิพพานเป็นอารมณ์, เรียนธรรมะในเมือง มีกิน – กาม – เกียรติเป็นอารมณ์
- เอาธรรมะสำหรับเรียนในป่า ไปเรียนในมหาวิทยาลัย ก็ได้ผลเป็นแผ่นกระดาษอันมีเกียรติ
- ให้โอกาสและวิธีช่วยตัวเอง นั่นแหละเป็นให้ธรรมทานที่แท้จริง
- จะให้ใครขยัน ต้องให้วิธีป้องกันโรคจิตไปด้วย
- ถ้าคนรู้ว่า ทำไมสัตว์ไม่เป็นโรคประสาท คนก็จะไม่เป็นโรคประสาทมากขึ้น
- ไม่ได้ตรัสสอนเรื่องตาย - เกิด ฯลฯ ทรงสอนแต่เรื่องทุกข์กับความดับทุกข์เท่านั้น
- สิ่งที่หลอกลวงเราที่สุด ก็คือสิ่งที่เราเรียกชื่อมันว่า “ความสุข”
- เป็นสุขหรือทุกข์ได้โดยไม่ต้องมีบุคคล มีแต่จิตที่ถูกปรุงหรือไม่ถูกปรุง ให้รู้สึกเช่นนั้น
- มีธรรมะแล้วก็เหมือนอยู่ในมุ้ง แล้วกวักมือยุง (ความทุกข์) ให้มากัด
- แม้ปลาก็มีได้ทั้งอาคาริก – อนาคาริก แล้วทำไมคนจะมีด้วยไม่ได้
- ภาษา คน คือจริงสมมติ ภาษาธรรม คือจริงปรมัตถ์
- ทำไมจะต้องห้ามสอนอนัตตา – สุญญตา – กาลามสูตร
- ถ้าดูให้ดี มีแต่ได้ ไม่มีเสีย แม้แต่ความทุกข์และความตาย ซึ่งเกลียดกลัวกันนัก
- เมื่อนายทุนรักกันได้กับกรรมกร ก็มีสันติภาพถาวร
- สหประชาชาติ ยังเป็นแต่มาลีวราช นั่งจับปูใส่กระด้ง
- ความสุขที่แท้จริงไม่ต้องใช้เงิน แต่ทำให้เงินเหลือ
- เลี้ยงหมาเป็นอาจารย์ เพื่อจะได้เป็นคนไม่เป็นหมา
- พอใจจนไหว้ตัวเองได้ คือสวรรค์แท้จริงที่นี่เดี๋ยวนี้
- อย่าอยู่หรือทำอะไรด้วยความหวัง แต่ด้วยสติปัญญา
- ความกล้าหาญทางจริยธรรมคือยอดแห่งความกล้า
- ไม่ทำหน้าที่ ธรรมะก็หนีจากวัด ไปมีอยู่กลางทุ่งนา
- “นายคลำ” เป็นอาจารย์ของทุกคน แม้นักปราชญ์
- ธรรมิกสังคมนิยม คือนายทุนรักกันได้กับกรรมกร
- นอกจากเรื่องทุกข์และดับทุกข์ มิใช่เรื่องต้องสนใจ
- สมาธิทุกชนิด คือ เอกัคตาจิตที่มีนิพพานเป็นอารมณ์
- คำสุภาษิต ใคร ๆ ไม่อาจสงวนสิทธิ์: ธรรมชาติเป็นเจ้าของ
- สุภาษิตเป็นธงชัยที่มุ่งหมาย หรือที่ปรากฏตัว ของฤษีทั้งหลาย
- ถ้อยคำที่ใช้เป็นประโยชน์ได้ จัดเป็นสุภาษิตได้ทั้งนั้น
- สุภาษิตหลุดออกมาจากปากของคนบ้าก็ยังมี สังเกตดูให้ดี ๆ เพราะธรรมชาติดันให้ออกมา
- คำสุภาษิตที่ท่านรู้สึกว่าตื้น ๆ ชืด ๆ นั่นแหละ อาจจะเป็นเพราะลึกเกินไป สำหรับท่านก็ได้
- จัดเป็นอมตภาษิต เพราะใช้ได้ตลอดกาลนิรันดร
- ระวัง คำที่ถือกันว่าเป็นสุภาษิต ๆ พูดไว้ผิด ๆ ก็ยังมี เพราะมิใช่ออกมาจากธรรมชาติ
สำหรับเพื่อนๆที่นำภาพถ่ายและบทความของผู้อื่นมาโพสต์โปรดอ่าน
Congratulations @kai840116! You have completed some achievement on Steemit and have been rewarded with new badge(s) :
Award for the number of posts published
Click on the badge to view your Board of Honor.
If you no longer want to receive notifications, reply to this comment with the word
STOP
To support your work, I also upvoted your post!