สวัสดีครับทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านเรื่องราวของผม
วันนี้เป็นผมจะมาขอเล่าประสบการณ์เล็กๆ น้อยจากการอ่าน และจากการทำงานของผมที่เป็น IT support แต่ส่วนมากแล้วจะทำข้อมูลต่างๆ ของบริษัทมากกว่างาน IT ละนะครับนั้นเลยทำให้ผมได้เห็นข้อมูลต่างๆ มากมายของบริษัทประกอบการได้อ่าน และเรียนรู้เรื่องนี้จากที่ต่างๆ จนตอนนี้้ผมสรุปมาเป็นเรื่องราวในแบบของตนเองมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
ว่าด้วยเรื่องเจ้านายกับลูกน้อง เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับทั้งสองอย่างนี้คือเจ้านายเป็นอย่างไง ลูกน้องก็จะมีลักษณะบ้างอย่างที่บอกให้รู้ได้เลยว่าทำงานอยู่กับใคร เท่าที่ผมได้สัมผัส และได้เห็นมานั้นผมสรุปคู่ของเจ้านายลูกน้องได้แบบนี้ครับ
แบบที่ 1) เจ้านายที่ทรงอำนาจ หรือสูงส่งมากๆ ก็จะมีลูกน้องที่เหมือนกับเครื่องจักร
เพราะว่าลูกน้องจะเกรงกลัวเจ้านาย จนเขาเลือกทำแต่งานที่ได้รับมอบหมายมา มากกว่าที่จะคิดทำอะไรที่นอกกรอบจากงานประจำ และเหมาะสมกับงานในตอนนั้น และทำวนไปเรื่อยๆ เพราะอะไรนั้นหลายคนคงพอจะเข้าใจ และรู้เหตุผลนี้ดี เพราะถ้าเกิดทำอะไรไม่ถูกใจก็จะเป็นเรื่องจนทำงานลำบากเลยที่เดี่ยวครับ
แบบที่ 2) เจ้านายที่สั่งงานคลุมเครือ หรือสุดท้ายผลักปัญหาที่เกิดให้กับลูกน้อง ก็จะมีลูกน้องที่ทำงานเป็นเต่า
เพราะว่าลูกน้องเลือกที่จะทำงานช้าถึงที่สุด หรือว่าไม่ทำเลยจนกว่าจะแน่ใจว่าทำได้จริง เพราะทุกคนไม่มีใครกล้าที่จะตัดสินใจในการทำงานนั้นเอง เนื่องจากสุดท้ายแล้วคำสั่งที่ได้มันถูกต้องหรือไม่ ถามกลับไปบ่อยครั้งก็ไม่มีใครรู้ตอบได้ว่าต้องการอย่างไงแม้แต่เจ้านายเอง แล้วถ้าทำผิดขึ้นมามันก็จะกลายเป็นว่าลูกน้องทำผิด แล้วถึงตอนนั้นจะให้หาทางออกก็ลำบากแล้วที่นี้
แบบที่ 3) เจ้านายที่จุกจิก หรือเร่งงาน ก็จะมีแต่ลูกน้องที่ทำงานไม่เป็นสักที่
เพราะงานที่ทำอยู่นั้นเหมือนจะเสร็จออกมาจากมีคุณภาพนะครับ แต่สุดท้ายก็ต้องตามแก้ไขงานไปเรื่อยๆ อยู่ดี เพราะว่าเจ้านายไม่มีความพอใจในงานสักที่ หรืองานมันไม่ได้ออกมาอย่างที่ควรจะเป็นด่้วยความเร่งรีบ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้ลูกน้องเบื่อหน่ายในการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ เพราะเหมือนกับต้องทำงานวนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่สามารถที่จะเริ่มงานใหม่ หรือศึกษางานใหม่ๆ ได้อย่างจริงๆ จังๆ สักที่ แล้วสุดท้ายก็พลอยทำงานไม่เป็นสักที่
แบบที่ 4) เจ้านายที่เป็นเจ้านาย ก็จะมีลูกน้องที่เหมือนกับว่าไม่มีก็ได้
เจ้านายแบบนี้คือคนที่เรารับรู้ว่าเขาเป็นใครทำอะไร แต่เราไม่เคยที่จะได้รู้จักอะไรเลย เวลารับงานก็รับมาผ่านคนอื่น หรือแค่สั่งงานแล้วก็ไป ไปส่งงานก็แค่รับไว้ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรมากมาย เหมือนเราเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำงานเท่านั้น ซึ่งส่งผลไปถึงทุกคนใต้บังคับ จะทำงานได้ยาก และเพิ่มความลำบากใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนทุกคนวางตัวในทีทำงานลำบาก จนทำงานไม่ได้เลย หรือถึงขั้นลาออกเลยก็มีนะครับ
สุดท้าย 5) เจ้านายที่ใครๆ เคารพ ก็จะมีลูกน้องมากมาย และทำงานได้หลากหลาย
เจ้านายแบบนี้เป็นแบบเป็นไงจริงๆ นั้นผมเองก็บอกไม่ถูกหรอกนะครับ แต่สำหรับที่ผมเคยเจอคือ เจ้านายที่เรากล้าจะบอก กล้าจะปรึกษา กล้าจะพูดคุยด้วย ทั้งเรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว เจ้านายแบบนี้ทำให้งานด้วยแล้วมีความสุข แต่จะมีปัญหาในเรื่องการบริหารครับ เพราะทุกคนมีความรู้สึกว่าต้องมีใครสักเป็นลูกน้องสุดที่รัก หรือที่โปรยปรายกว่าคนอื่นแน่ๆ ทำให้ในกลุ่มลูกน้องเองมีปัญหานั้นเอง หากไม่สามารถที่จะดูทุกคนได้
นี้เป็นที่สิ่งผมเจอมาเท่านั้นนะครับ ไม่ได้แปลงว่ามันเป็นแบบนี้เสมอไป ใครเจอแบบไหนอย่างไงก็มาเล่าให้ฟังหน่อยนะครับ
แล้วก็ฝากติดตามผลงานของผมด้วยนะครับ
นายตั้ม
😀😀😀เคยเจอเจ้านายที่น่ารักมากๆคะ ส่วนที่ไม่ถูกใจก็เยอะแบบที่น้องเขียนมาก็เจอทุกแบบ ส่วนคนที่ทำงานแบบรู้จริงเจอน้อย แต่จะเห็นลยคะว่าคนเหล่านี้วันหนึ่งเป็นนายตัวเอง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
เคยเจอแบบปากร้ายใจดีค่ะ ด่าได้ทั้งวัน ทุกวัน 555 แต่ก็ใจดีสุดๆ ,,, เรื่องราวสนุกดีค่ะ
ขอบคุณครับ
สวัสดีจ้ะ น้องตั้ม,
พี่วิควรเป็นเจ้านายแบบไหนดี อยากเป็นเจ้านายที่ลูกน้องเคารพและเชื่อฟัง ที่สำคัญจะต้องไม่มีคนโปรด เพราะเวลาพี่ทำงานกับลูกน้องพี่จะกระจายงานให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองสำคัญในทีม ไม่มีคนโปรด มีแต่ถ้าคุณทำงานดีเราชื่นชม ใครไม่ดีทำผิดพลาดก็ต้องเรียกว่าพูดคุยตักเตือน พี่พยายามจะทำให้ลูกน้องรู้จักคำว่า team work อาจจะเพราะพี่ก็เคยเป็นลูกน้องที่มีหลายเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน เลยพอจะเข้าใจว่าเวลาลูกน้องประสบปัญหาเราควรจะแก้ไขหรือช่วยเค้าแบบไหน แต่ก็ยังต้องเรียนรู้และลองทำไปเรื่อยๆ ค่ะ เจ้านายที่เก่งคือคนที่สอนให้ลูกน้องเก่งตามและทำงานแทนเจ้านายได้ แค่เหลือหน้าที่ให้เจ้านายได้ตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญเท่านั้น หรือเวลาลูกน้องไม่อยู่ก็สามารถทำหน้าที่แทนได้เช่นกัน