ผ่านว่าเลนไทน์กับตรุษจีนมาทั้งที่ เริ่มเช้าวันใหม่กับการทำงานที่แสนจะน่าเบื่อๆๆ มาก 555 อดทนและสู้กันต่อไปครับ
วันนี้ไม่ได้จะมาพูดถึงการทำงานครับ วันนี้จะพูดถึงการรู้จักความ "อดทน"
ความอดทนมนุษย์ทุกคนต้องมีอยู่แล้วครับ แต่จะมากหรือน้อยต่างกันออกไป การอดทนต่ออะไรน่ะหรอที่จะเรียกได้ว่า เป็นการอดทนจริงๆ? ผมตอบไม่ได้หรอครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคน แต่ครั้งนี้ผมจะเล่าเกี่ยวกับความอดทนของผมในหลายๆเรื่อง
ตั้งแต่ผมเกิดมาผมต้องคอยรับพาระและแรงกดดันด้านครอบครัว (อันนี้ขอไม่เล่านะครับ) มันเลยต้องทำให้ผมอดทนตั้งแต่นั้น จนเข้าร.ร. แค่การเข้าเรียนการให้ชีวิตต่างๆตอนยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง หรือเรียกว่ายังอยู่ในสังคมไม่เป็นนั้นล่ะคับ ทุกคนผ่านชีวิตในช่วงวัยเด็กมาผมรู้ว่าเด็กส่วนใหญ่ก็ต้องอดทนกันทั้งนั้นครับ พอเราโตขึ้นความอดทนก็อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยบางคนก็ทิ้งความอดทนนั้นไปกายเป็นคนที่ใจร้อน ถ้าผมจะยกตัวอย่าอะไรมากมายคงน่าเบื่อ มีทฤษฎีของซิกมันฟอร์ย เกี่ยวกับจิตใต้สำนึก ถ้าใครว่างก็เข้าGoogle ไปอ่านได้ทฤษฎีเข้าน่าสนใจมาก
ใช้อ้างอิงเกี่ยวกับความอดทนของเด็กได้ดีเลย ส่วนให้ในวัยเด็กผมมักจะเป็นคนเฮฮาและเป็นเด็กกิจกรรมส่วนใหญ่เวลาต่างๆในวัยนั้นหมดไปกับการงานโรงเรียน
ต้องใช้ทั้งความพยายามและอดทนมาก ทั้งด้านการใช้ชีวิตในสังคมร.ร. ด้านครอบครัว ผมมักทำอะไรที่ผมบางทีก็ไม่ชอบแต่จำใจต้องทำ บางครั้งก็ต้องคอยโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ บางครั้งก็ต้องยอมอดทนเพื่อคนที่เรารัก
ในเรื่องความอดทน สำหรับผมสบายมากครับ อดทนมาทั้งชีวิตทุกคนก็ต้องอดทนต่อจนกว่าจะตาย ความหมายของคำว่า อดทน สำหรับผมคือ อนาคต
แล้ววันต่อๆไปที่ผมตื่นมาผมเชื่อว่าคำว่าอดทนจะทำให้ผมรุกขึ้นมาทำอะไรได้หลายอย่าง
ต้องขอขอบคุณที่สะระเวลามาอ่านครับผม
อย่าลืมกดโหวตและติดตามกันด้วยนะครับ
Sort: Trending