ปฏิบัติการตามหา Iphone ที่หายไป | Find My IPhone

in #thai6 years ago

44083904_308394456415443_323215556247289856_n.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้เราได้ทำโทรศัพท์มือถือของตัวเองหายค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เราเองยังไม่เคยทำโทรศัพท์มือถือหายมาก่อนเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทำให้งงๆไปบ้าง วันนั้นเราเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งก็เป็นปกติที่เราต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่แต่วันนั้นเราเดินทางไปทำงานเช้ากว่าปกติ ก่อนจะถึงที่ทำงานยังเหลือเวลาอีกมาก จึงแวะรับประทานอาหารเช้าริมทางก่อน ซึ่งตอนที่เข้าไปในร้านอาหาร เราหามือถือในกระเป๋าแล้วแต่ไม่พบ เลยคิดไปเองว่าน่าจะอยู่บนรถ และเมื่อถึงที่ทำงาน ก็เริ่มหาใหม่อีกครั้งทั้งในรถและกระเป๋า ปรากฎว่าไม่เจอเลยสักที่ ตอนนั้นคิดว่าคงหายแน่ๆแล้วละ แต่ไม่รู้ว่าหายตอนไหน และตอนนั้นก็ถึงเวลาเข้างานแล้วด้วย นักศึกษาก็มากันครบ เราจึงคิดว่างั้นสอนก่อนแล้วกัน ไม่อยากให้รบกวนเวลางาน พักเที่ยงค่อยไปหา เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง เราก็บอกนักศึกษาว่า มือถืออาจารย์หายและไม่รู้หายตรงไหนด้วย

นักศึกษา : อาจารย์มือถือ ยี่ห้ออะไรค่ะ
เรา : ใช้ iphone ค่ะ
นักศึกษา : งั้น ใช้ แอป find my Iphone ตามหาสิค่ะ
เรา : แต่อาจารย์ไม่มีเครื่องติดตามนะ (การจะใช้ application Find My Iphone ได้นั้น เราจะต้องมีเครื่องที่ใช้ ระบบ IOS เหมือนกันในการตามหาอีกเครื่อง)
นักศึกษา : งั้นใช้ iphone หนูติดตามได้ค่ะ

44169185_262481234455882_5344308560387899392_n.jpg

จากนั้น นักศึกษาก็ยื่น iphone ของเธอให้ เราได้ใส่ email และ password ของ Apple ID ลงในไป Find my iphone application ใน iphone ของนักศึกษา ผลปรากฏว่า Iphone ของเราอยู่ห่างจากที่ทำงาน ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเราคิดว่า ไม่ได้ห่างจากที่ทำงานของเรามาก เราจึงสันนิษฐานไปเองว่า น่าจะยังไม่มีคนเอาไป เนื่องจากสถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่เราจอดรถลงไปรับประทานอาหารเช้า แถมเป้าหมายไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างไร เลยคิดว่ายังไม่มีใครเอาไปค่ะ

นักศึกษา : งั้นอาจารย์ไปรถหนูเลยนะคะ เราต้องรีบไปเผื่อโชคดียังไม่มีคนเอาไป
เรา : ตกลลงค่ะ

44252412_1779813972117349_3759528558024720384_n.jpg

ขณะที่ขับรถไปนั้น เราได้ขับรถตามแผนที่ ที่ตัว Application ได้นำทางเราไป เมื่อถึงเป้าหมาย เราก็พยายามหาตามพื้น เพราะไปดูที่ร้านแล้วเขาบอกว่าไม่มี เลยคิดว่าน่าจะตกพื้นตอนลงจากรถ แต่เมื่อหาไปสักพักยังไม่เจอ ตอนนั้นเราเลยบอกนักศึกษาว่า ช่วยโทรเข้ามือถือเราหน่อย เมื่อเราเดินไปรอบๆ ก็เริ่มได้ยินเสียงริงโทนแล้วค่ะ โชคดีมากที่เราไม่ได้ปิดเสียงไว้ ซึ่งโทรศัพท์ถูกพบที่ซุ้มเล็กๆริมทาง และโชคดีมากที่วันนั้นไม่มีคนขายของ และโชคดีถัดมาคือ คนที่เก็บให้ใจดีมาก เนื่องจากถ้าตกต้องตกที่พื้นอย่างแน่นอน ซึ่งมีคนเก็บไปว่างที่ซุ้มนั้นเองค่ะ ถือว่าโชคดีมากๆเลย ทุกอย่างต้องขอบคุณทั้งคนที่เก็บโทรศัพท์ให้วันนั้น นักศึกษา และ application find my iphone ของ Apple ค่ะ

43951616_2193921734180705_4993817638233702400_n.jpg

ซึ่งวันนั้น ถ้าไม่เจอ iphone จะได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่แล้วเชียว ฮ่าๆๆ

Sort:  

โชคดีจังที่ไม่หาย

Posted using Partiko Android

เกือบได้มือถืออันใหม่แล้วเชียว อิอิ

😁😁😁😁

Posted using Partiko Android

โชคดีมากครับ ที่ไม่หายและไม่ปิดเสียง

Posted using Partiko Android

ใช่แล้วค่ะ เกือบได้เครื่องใหม่แล้ว อิอิ

แหม่...เกือบจะได้โทรศัพท์ใหม่แล้วมั้ยละ555

Posted using Partiko Android

แหม่ เสียดายไม่น่าเจอ เอ๊ะ ฮ่าๆๆ

เอ๊ะ..ยังไง5555

Posted using Partiko Android

โชคดีมากนะคะเด๋วนร้มือถือเป็นเหมือนคลังข้อมูลส่วนตัวเหมือนกระเป๋าสตางค์คือถ้าหายนี่พี่ใจไม่ดีเลยแน่ๆ ขอบคุณเรื่องวิธีการติดตามหาเครื่องด้วยนะคะ ในวันข้างหน้าเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นจะได้นึกถึงข้อนี้และทำการค้นหา

เครื่องอาจไม่เสียดายเท่าข้อมูลที่อยู่ในเครื่องเนอะ สำคัญจริงๆ

โชคดีที่หาเจอค่ะน้องซาญ่า ระบบเค้าดีจริง มีเข็มทิศนำทางด้วย เจ๋งมากๆค่ะ 👍👍

Posted using Partiko Android

ระบบค่อนข้างเฟอเฟกเลยค่ะ นำทางเราไปถึงที่เลย แถมส่งสัญญาณเมื่อใกล้ถึงด้วย

ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูล ยังไม่เคยรู้วิธีใช้ app นี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากใช้อ่ะนะ ข้อมูลเพียบเลย 5555 รัก iPhone ยิ่งชีพ 😁

ไอโฟนก็สำคัญนะ ข้อมูลในเครื่องสำคัญกว่าเยอะเลย ทางที่ดีห้ามหาย ห้ามขาด ห้ามลา อิอิ

โชคดีที่ได้คืนค่ะ แอนเคยทำหายตอนมาเที่ยวเวียดนามครั้งแรก
เดือนนั้นหนาวและฝนตก เราขี่รถมอเตอร์ไซต์เที่ยวกันค่ะ เลยต้องเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า
และมัดไว้เบาะด้านหลัง วันนั้นเป็นวันที่เรามุ่งหน้ากลับฮานอย เพราะวันรุ่งขึ้นต้องบินกลับไทย
ระหว่างที่ขี่ไปเรื่อยๆ ก็เหลือบมองกระจกหลังเป็นระยะ เพื่อเช็คว่ากระเป๋ายังอยู่
แต่... พอผ่านหมู่บ้านหนึ่งไปเกือบ 5 กิโล เหลือบมองอีกที กระเป๋าเป้ใบเล็กหล่นหาย
เพราะฝนตกแล้วมันทำให้เชือกลื่นหรือยังไงไม่รู้ เหลือแต่กระเป๋าใบใหญ่
คราวนี้แหละ ... หยุดรถเลย ... เพื่อนก็นำหน้าไปไกลแล้ว ทำไงดี
เพราะจะตามเพื่อนให้ทันก็กลัวเกิดอุบัติเหตุถนนลื่น
จะลองย้อนกลับไปดู เผื่อเจอว่าหล่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง
เลยตัดสินใจเลี้ยวรถกลับเกือบ 10 กิโล ก็ไม่เจออะไรเลย
ทำอะไรไม่ถูก อีกทั้งต้องรีบเข้าเมืองก่อนค่ำ เพราะต้องหาที่พักด้วย
แถมไฟหน้ารถก็ไม่ค่อยสว่าง ถ้าขี่ตอนกลางคืนก็จะอันตราย
เลยตัดใจเลี้ยวกลับ มุ่งหน้าเข้าเมือง โดยที่ไม่รู้ว่าป่านนี้เพื่อนถึงไหนแล้ว
(ตอนนั้นขี่รถคนละกันกับเพื่อนแค่ 2 คน)

นานแค่ไหนไม่รู้ เจอเพื่อนรออยู่ที่ปั๊มแห่งหนึ่ง
เลยแวะจอดเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟัง
เพื่อนเองก็เป็นกังวลอย่างมาก เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับเรา
เพราะระหว่างทางบางช่วงก็ถนนไม่ดี กำลังมีการปรับปรุงพื้นผิวอยู่
เพื่อนก็บอกว่าวนกลับไปหาเราอยู่ แต่ไม่เจอเลยต้องมารอที่ปั๊มเพราะฝนตกและหนาวมาก

โชคดีที่เราเข้าเมืองได้ทันก่อนมืด หลังจากนั้นก็เปิดคอมฯ หาโลเคชั่นว่าเครื่องอยู่ไหน
เจอค่ะ เจอที่หมู่บ้านแห่งนั้นแหละ น่าจะมีคนเก็บได้ แต่คงกลับไปเอาไม่ทันแล้ว เกือบ 300 กิโล
พรุ่งนี้เช้าก็ต้องบินกลับกรุงเทพฯ แล้ว จึงต้องจำใจจบทริปด้วยความอาวรณ์
กระเป๋าเป้เล็กใบนั้นมีโทรศัพท์ 1 เครื่อง (ซิมไทย เลยโทรไม่ติดเพราะไม่ได้เปิดโรมมิ่ง) แบตสำรอง 1 อัน และพวกอุปกรณ์ชาร์จต่างๆ
คือได้โทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ตเลย คุ้มสำหรับคนเก็บได้จริงๆ