ฤดูฝนมาเยือนเตือนใจว่า
กบปูปลาเริ่มมีกินถิ่นบ้านฉัน
จับสวิงเร็วไวไปช้อนกัน
มีทุกวันอาหารดีที่บ้านเรา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ มาพบกันอีกแล้วนะคะ มาวันนี้จะพาเพื่อนๆไปดูวิถีชีวิตของคนบ้านนอกคอกนาอย่างฉัน อิอิ...ในหัวข้อข้างบน บางคนอาจจะฟังดูไม่รู้เรื่อง คำว่า"ส่อนฮวก"หมายถึงการช้อนเอาลูกอ๊อดนั่นเองค่ะ...
เป็นธรรมดาเมื่อย่างเข้าสู่หน้าฝน ฝนตกหนักและบ่อย ก็จะทำให้มีน้ำขัง กบ หอย ปู ปลาก็จะออกมาวางไข่ พอไข่กบมันกลายเป็นลูกอ๊อดหรือบ้านฉันเรียกว่า"ฮวก" เราก็จะเตรียมเอาสวิงและผ้าดางเพื่อที่จะไปช้อนมาทำเป็นอาหาร และไม่ลืมคุที่จะเอาไปใส่ด้วย ในช่วงนี้ตามทุ่งนาจะมีผู้คนมาช้อน
ฮวกอยู่ทั่วไป "หมกฮวก"ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยของคนชนบท และฮวกก็มีราคาแพงเสียด้วย อยากรู้แล้วหละสิว่าบรรยากาศแห่งท้องทุ่งจะเป็นยังไง งั้นจะรออะไรให้เสียเวลา เชิญตามมาเลยค่ะ...
เมื่อวานนี้ ขณะที่ฉันนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซด์ดังมาแต่ไกล...เสียงมันใกล้เข้ามาทุกที ทุกที แล้วเสียงนั้นก็หยุดลงที่หน้าบ้านของฉัน
ฉันมองออกไปด้วยความสงสัย ฉันก็เห็นลูกสะใภ้และลูกชายของเพื่อนบ้านที่สนิทกัน สะใภ้คนนี้เขาจะถือฉันและสามีเหมือนญาติผู้ใหญ่ เขาจะเรียกเราว่า"ปู่"และ"ย่า"บ้านเราอยู่ห่างกันประมาณ200เมตร ขณะนั้นเป็นเวลา4โมงเย็น
"ย่า ย่า ไปช้อนฮวกมั๊ย"
หล่อนหมายถึงลูกอ๊อดซึ่งพอโตมาก็จะเป็นกบนั่นเอง
"เออ ก็น่าสนเหมือนกันเนาะ ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าไปกินลมชมวิวแล้วกัน"
ฉันตอบเสร็จก็หันหน้าไปทางสามี
"พี่ ไปช้อนฮวกมั๊ย ไปเป็นเพื่อนหน่อย ขึ้นซาเร้งค์ไปกับหลานนี่แหละ ไม่เคยนั่งซักที คงจะเย็นสบายดี"
ฉันถามสามีพร้อมกับหาเอาสวิงและคุเพื่อเอาไปใส่ลูกอ๊อด สามีไม่พูดอะไร เขาเดินลงมาจากบ้าน ซึ่งบ้านของฉันเป็นบ้านชั้นเดียว ยกระดับ มีบันได4ขั้นจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมาย ฉันไม่เคยนั่งซาเร้งค์ พอได้นั่งก็รู้สึกโล่ง เย็นสบาย เพราะช่วงเวลานี้ไม่มีแดด ลมพัดกระทบร่างกำลังเย็นสบาย เรานั่งรถชมวิวและพูดคุยกันไปตลอดทาง
ประมาณ12นาทีก็ถึงจุดหมาย ซึ่งที่ที่เราจะช้อนนี้เป็นที่ดินของพี่ชายคนที่ติดกับฉัน มันเป็นที่ลุ่ม ปกติจะทำนา แต่ปีนี้แกอยากจะลองใส่อ้อยดู แต่...ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง ตั้งแต่เริ่มปลูกอ้อยเสร็จ ฝนก็ตกแทบทุกวัน อ้อยก็เลยเน่าเพราะถูกน้ำขัง จึงกลายเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำทั้งหลาย...
พอมาถึงหลานสะใภ้และสามีของหล่อนก็ตรงรี่ลงไปช้อนทันที หล่อนชอบทางนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะขึ้นเขาลงห้วย หล่อนพร้อมทุกสถานการณ์ ฉันเองก็ไม่ค่อยถนัดในเรื่องนี้เท่าไหร่ หล่อนเอาสวิงไป2อัน หล่อนเป็นคนช้อน ส่วนสามีเป็นคนเก็บ ฉันจะช้อนตรงที่หล่อนช้อนแล้ว เพราะหล่อนช้อนเร็วมาก การช้อนก็จะช้อนบริเวณน้ำตื้นๆ ฉันจะช้อนที่เดิมจนน้ำขุ่น การช้อนแต่ละครั้งก็จะได้ฮวกครั้งละ2-5ตัว การช้อนเนี่ย...ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทำไมถึงพูดอย่างนั้น ก็มันเหนื่อยนะสิ... เหงื่อท่วมตัวเต็มไปหมด ฉันใช้เวลาในการช้อนเกือบถึงชั่วโมง ได้ไม่เยอะ แต่เราอยู่กันแค่สองคน ยังไงก็สบายอยู่แล้ว
ฉันช้อนอยู่เป็นนานสองนานก็ให้รู้สึกเหนื่อย เมื่อเห็นว่าได้สมควรแล้วฉันจึงเดินมาหาสามี มองเห็นเขาก้มๆเงยๆอยู่ในหนองน้ำ
"พี่ ทำอะไรน่ะ"
ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า
"งมหอยเชอรี่ เอาไปจิ้มน้ำพริก อร่อยออก"
สามีตอบ
"จะดีเหรอพี่ ไม่กลัวปวดหัวเหรอ"
ฉันถาม
"ไม่เป็นไรหรอก ช่วงนี้คนยังไม่ฉีดยา อีกอย่างพี่อยากจะฆ่าไอ้หอยพวกนี้ด้วย มันชอบมากัดต้นข้าวของเราเสียหายหมด จะเป็นการดีทีเดียว "ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว"เลย"
เขาพูดพร้อมกับเอาไม้จิ้มหัวหอย
ในขณะที่เขางมหอยอยู่นั้น ฉันก็จะนั่งเอาขี้ของ
ฮวกออก ได้สักครู่ใหญ่ๆ สามีภรรยาคู่นั้นก็เดินมา
ยังที่ฉันนั่งอยู่
"ได้เยอะมั๊ย?...ไหนเอามาดูซิ"
ฉันถามพร้อมกับเดินไปจับคุที่เขาหิ้วมา
"โอ้โห! จุ๊..จุ๊ ได้เยอะนี่ พากันช้อนยังไงได้เยอะจัง"
ฉันพูดด้วยความตื่นเต้น พอฉันดูแล้ว หล่อนก็นำ
ฮวกทั้งหมดเทลงในสวิง แล้วนำไปแกว่งๆในบริเวณที่น้ำลึกๆแล้วก็นำมาใส่คุ จากนั้นเราจึงชวนกันกลับบ้าน
พอดีว่าทางกลับบ้านจะผ่านไร่ตรงที่ฉันปลูกเสร็จเมื่อเดือนที่แล้ว ฝนตกบ่อยเลยทำให้อ้อยเกิดไม่ดีเท่าที่ควร บริเวณที่ไม่ได้ปลูกอ้อยก็มีน้ำขัง เราจึงจอดรถซาเร้งค์ สองสามีภรรยาไม่รอช้า รีบเอาสวิงลงไปช้อนทันที ส่วนฉันไม่ยอมลงจากรถเพราะเหนื่อย พอดีที่แปลงนี้มีผักบุ้งขึ้นเยอะ สามีจึงลงไปเก็บผักบุ้ง ช้อนอยู่สักพักหนึ่งเราก็นั่งซาเร้งค์กินลมชมวิวกลับบ้าน
พอมาถึงบ้านฉันก็ก่อไฟนึ่งข้าว จากนั้นก็นำหอยมาตัดเอาฝาออกแล้วล้างน้ำเกลือเพื่อให้หอยสะอาด
เสร็จแล้วนำไปต้ม พอหอยสุกแล้วก็บีบน้ำมะนาวล้างอีกจนสะอาด ทำน้ำพริกเปรี้ยวหวานไว้รอ จากนั้นก็ทำแกงฮวกใส่หน่อไม้ดองหรือบ้านฉันเรียกหน่อไม้ส้ม เสร็จแล้วก็ยกมากิน เราสองคนจะนั่งเสื่อในการกินข้าว ถ้านั่งโต๊ะรู้สึกเหมือนว่ากินข้าวไม่อิ่มและไม่อร่อยเหมือนนั่งติดพื้น
เป็นไงบ้างคะชีวิตแบบบ้านนอก ๆอย่างฉัน อยู่นี่ถ้าไม่ขี้เกียจก็ไม่อดตายหรอกค่ะ ยิ่งหน้านี้ยิ่งมีอาหารอุดมสมบูรณ์ "ในน้ำมีปลาปู บนภูมีหน่อไม้"
และแล้ว...ก็จบลงด้วยดี วันนี้ต้องขอตัวก่อนนะคะขอให้เพื่อนๆในชุมชนของเราจงมีสุขภาพแข็งแรงกันทั่วหน้า สวัสดีค่ะ
Thank you for supporting, comment and following me.
Love you all.
ขอบคุณสำหรับอัพโหวต คอมเม้นต์และการติดตาม ยืนดีที่ได้รู้จักกับเพื่อนๆในชุมชนของเราค่ะ
กับข้าวน่าทานมากค่ะป้า
จ้ะ เหมียว ก็อร่อยตามสไตล์บ้านนอกอะนะ
พี่นาง เขียนเรื่องราววิถีชีวิตพื้นบ้านของคนไทยได้ดีมากๆ ค่ะ สมัยเด็กๆ เคยก็เคยไปปูจับปลา แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปเลย
ว่างๆ ลองหาโอกาสไประลึกถึงความหลังนะคะคุณเปิ้ล😅😅
ได้ของกินเยอะเลยนะครับป้า
ครับผม😊😊
ชีวิตเรัยบง่ายที่น่าอิจฉาค่ะ ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนชีวิตในเมือง
เรียบง่ายจ้ะโรส แต่ก็จะลำบากหน่อย ต้องตากแดดหน้าดำ555
ลำบากกายแต่สบายใจ โรสก็อยากมีชีวิตแบบนี้เหมือนกันค่ะพี่นาง
😊😊😊
กับข้าวหาได้โดยไม่ต้องซื้อ ชีวิตดี๊ดีค่ะ เรียบง่ายได้อยู่กับธรรมชาติ
ค่ะคุณแนต ส่วนมากหน้านี้จะไม่ค่อยได้ซื้อหรอกค่ะ อีกซักหน่อยก็จะไปเก็บหน่อไม้ภู😃😃
เมืองไทยเรานี้แสนดีหนักหนา
ในน้ำมีปลาในนามีข้าว....
นึกถึงเพลงนี้เลยครับ อุดมสมบูรณ์จริงๆครับ ถ้าไม่ขี้เกียจก็ไม่อดตายอย่างที่คุณนางว่าเลยครับ
ทำมาหากินกินแผ่นดินของเรา ปลูกเรือนสร้างเหย้าอยู่ร่วมกันไป...😅😅😅ใช่เลยค่ะคุณพ่อ
😁😁😁
ฮวกไม่เคยกิน แต่ชอบกินพ่อแม่มัน กบอ๊บอ๊บ อร่อยดีค่ะ 😁😁😅😅
เหรอจ๊ะนาง ถ้างั้นลองเลย หมกใส่ตองนะ อร่อย
มากเลยหละ