หนังสือเตือนใจของเรา 74 : วันเด็ก

in #thai6 years ago

หนังสือเตือนใจของเรา_steemit copy.jpg

เมื่อวานเป็นวันเด็กที่ประเทศลาว และคุณ @chanmaly บอกว่าอยากหาเรื่องที่ผมเขียนเกี่ยวกับวันเด็ก ต้องขอขอบคุณมากๆ ครับ ที่ช่วยให้ผมมีไอเดียในการเขียนที่แปลกใหม่ครับ

ผมว่าเราคงผ่านวันเด็กมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ยิ่งผ่านไปหลายปีเท่าไหร่ เรายิ่งห่างเหินจากคำว่าวันเด็กไปทุกที
ที่เราห่างเหินไปเรื่อยๆ เพราะเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ เราก็เริ่มห่างจากความเป็นเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ

จากตอนเด็กที่เรารู้สึกสนุกกับสิ่งต่างๆ รอบตัว อะไรก็ทำให้เราสนุก มีความสุข อยากเป็นอะไรก็เป็น มีความฝันมากมาย สนุกกับจินตนาการอย่างไม่ต้องคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือเปล่า

แต่พอโตขึ้น เราเริ่มเปลี่ยนตัวตนไป เราเริ่มจะมีความจริงจังกับชีวิตมากยิ่งขึ้น จากที่เคยจินตนาการได้อย่างเต็มที่โดยไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้เราเลือกความคิดที่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนอะไรที่เป็นไปได้ เราก็ไม่ได้คิด

การเล่นอะไร เราก็เลือกที่จะเล่นอะไรที่สมกับวัยเรา เสียงหัวเราะที่มาจากใจเริ่มหายไป กลายเป็นเสียงหัวเราะที่มาจากการตามใจคนอื่น เพื่อให้เราอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งสร้างกรอบความคิดขึ้นมากยิ่งขึ้น เราเริ่มจะสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเอง เพื่อเป็นภาพลักษณ์ที่ใครๆ ก็ต้องมองว่าเรามีชีวิตที่ดี มีความสุข

แต่เราเคยลองย้อนกลับมาคิดบ้างหรือเปล่าครับ ว่าสิ่งที่เราทำไป แน่ใจหรือว่าเรามีความสุข เป็นความสุขที่มาจากหัวใจของเราจริงๆ หรือมาจากการสร้างภาพลักษณ์ของเราครับ

ช่วงเวลาที่เราได้หัวเราะอย่างเต็มที่ ได้ยิ้มกับเรื่องง่ายๆใกล้ตัว คิดฝันอย่างเต็มที่ มีชีวิตที่สดใส ไม่แอบนินทาใคร ช่วงเวลาเหล่านี้ของเราหายไปไหนครับ

ในวันที่เราเครียด มีปัญหาในชีวิต ลองหาเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเราทำให้เรามีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่มาจากใจ

เปลี่ยนจากคิดอะไรที่จริงจังแต่ก็ไม่ได้ทำให้เราแก้ปัญหาได้ ไปคิดในเรื่องที่เราสนุก รู้สึกอยากคิดไปเรื่อยๆ ไม่แน่เราอาจจะพบกับคำตอบของปัญหา จากจินตนาการที่ดูไร้สาระก็ได้นะครับ

จากชีวิตที่ต้องมีภาพลักษณ์ ลองใช้ชีวิตที่ได้ทำ ได้คิดอะไรที่เป็นตัวเองดูมั้ยครับ ลองกลับไปใช้ชีวิตที่สดใส ให้เหมือนวัยเด็กอีกครั้งนึง เราอาจจะพบความสุขที่แตกต่างจากวันนี้ แต่ไม่แตกต่างเลยจากวัยเด็กของเราก็ได้ครับ

ในวัยเด็กเราไม่มีเรื่องอะไรให้คิดมากมาย เราก็เลยไม่แอบนินทาว่าร้ายใคร เรามามีความสดใสและมีความคิดที่เบาสบายเหมือนวัยเด็กด้วยการเลิกคิดอะไรในแง่ลบกับคนอื่นและตัวเอง และคิด พูด ทำในเรื่องที่ทำให้ชีวิตรายล้อมไปด้วยความสดใสดีกว่าครับ

ธรรมชาติได้มอบความสดใส ความมีชีวิตชีวา และความสุขให้กับเรามาตั้งแต่เกิดแล้ว เพียงเรายอมรับธรรมชาติมากกว่าการสร้างภาพลักษณ์แบบไม่ธรรมชาติ เราก็จะพบกับชีวิตที่สดใสแบบที่ไม่ต้องทำอะไรให้ยากเลยครับ เพราะนั่นคือตัวตนของเรา ที่เราแค่ลืมไปแค่นั้นเองครับ

2017-11-25 14.14.40_2.JPG


Thanks for reading.
Author: Tawa Siriwach
https://www.tawasiriwach.com
More : www.facebook.com/TawaDesign
www.facebook.com/onewordoneinspiration


บทความย้อนหลังเกี่ยวกับ Steemit ครับ

Sort:  

เป็นบทความที่เขียนได้ดีมากๆครับ

ชอบมากเลยค่ะ ให้เต็มไลเลย มีเท่าใดให้หมด
ใช้ชิวิดแบบเด็กๆนุกนานก่วาตั้งเยอ ทำอะไรลงไปก่อไม่ต้องคิดให้ปวดหัว พอโตมาก่อต้องคิดหน้าคิดหลังก่วานี้นั้นนูน ทำแต่สิ่งที่ตัวเองไม่ ชอบ บ้างที่ก่อยี้มทังวัน แต่ ใครจะรู้ไม่ว่าเราอมทุกในใจ นี้ละน่ะ เขาว่าไวคนทำงาน ลองเขียนพากต่อตอนโตน่ะค่ะ

ผมเขียนเองก็มานึกถึงตัวเองเลยครับ บางครั้งผมก็ไม่ได้ยิ้มหรือหัวเราะแบบเต็มที่มานานแล้ว ไม่เหมือนตอนเด็ก ที่มีแต่เพื่อนเล่นที่ไม่คิดอะไรมากครับ 55

โตแล้วความรับผิดดชอบเยอ

เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดค่ะ

ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่านครับ

ถูกต้องที่สุดค่ะ อยากก้าวผ่านกำแพงที่กั้นไว้มากเลย

ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่านกันครับ

There should be a day for “Adults can behave like children again Day”!!
So, on that day adults and grown ups can be free to act like children again!

A funny day for sure!

Thank you very much for reading my article.