Hi everyone! I would like to share some pictures of my recent trip to the beautiful city of Brussels in Belgium. This city visit was part of my first ever Europe trip, and the whole journey was simply AMAZING! I definitely learned and enjoyed a lot along the way. Hopefully after reading this you are also inspired to go out and make a trip to this beautiful and inspiring city. Let's get started!
สวัสดีคะทุกคน! ฉันอยากจะแบ่งปันรูปภาพการเดินทางล่าสุดของฉัน เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยคะที่ได้ไปท่องเที่ยวในประเทศโซนยุโรป ประเทศแรกที่ฉันไปคือ เบลเยี่ยม เมืองหลวงคือ กรุงบรัสเซลส์ การเดินทางครั้งนี้เป็นอะไรที่ฉันตื่นเต้นมาก ฉันได้เรียนรู้และมีความสุขไปพร้อมกัน ฉันหวังว่าหลังจากที่ทุกคนได้เข้ามาดู จะเป็นประโยชน์ และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกคุณได้ออกเดินทางกันนะคะ มาเริ่มกันเลย!
Atomium
Let's kick off with one of the most iconic symbols of Belgium, the world-famous 'Atomium'. The Atomium was the main pavilion and icon of the World Fair of Brussels (1958), commonly called Expo 58. The structure consists of nine 18 m (60 ft) diameter stainless steel spheres that are connected so that the whole forms the shape of a unit cell of an iron crystal magnified 165 billion times. It symbolizes the democratic will to maintain peace among all the nations, faith in progress, both technical and scientific and, finally, an optimistic vision of the future of a modern, new, super-technological world for a better life for human beings.
ขอเริ่มด้วยหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดของเบลเยี่ยม คือ 'อะโตเมี่ยม' Atomium สถาปัตยกรรมแห่งวิทยาการ สะท้อนชีวิตใหม่หลังสงครามโลก ใน ปี ค.ศ. 1958 อาคารรูปทรงโมเลกุลสุดแวววาว , มักเรียกว่า Expo 58 อาคารไฮเทคแห่งนี้ มีความสูง 330 ฟุต ประกอบด้วยวัตถุทรงกลม 9 ลูก แต่ละลูกมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 18 เมตร (60ฟุต) รวมน้ำหนักเบ็ดเสร็จแล้ว นวัตกรรมนี้หนัก 2,400 ตัน ใช้เวลา 18 เดือน ในการออกแบบ นานพอๆ กับระยะเวลาการสร้าง สแตนเลสทรงกลมที่เชื่อมต่อเพื่อให้ทั้งรูปแบบรูปทรงของหน่วยเซลล์ของผลึกเหล็กขยาย 165 พันล้านครั้ง มันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตย เจตจำนงที่จะรักษาความสงบท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย ความเชื่อในความก้าวหน้า ทั้งทางเทคนิค และทางวิทยาศาสตร์และมีวิสัยทัศน์ในเชิงบวกต่ออนาคตของโลกสมัยใหม่ ซุปเปอร์เทคโนโลยีสำหรับชีวิตที่ดีขึ้น
Brusselse Waffle
A trip to Brussels is not complete without trying the delicious local delicacy: 'Brusselse Waffle'. There are many varieties of the waffle, but you can easily recognize a true "Brusselse" waffle by its rectangular shape and deep, square pockets. Main ingredients include: flour, sugar, baking powder, egg, milk and butter. Most waffles are topped with whipped cream, strawberries or sugar. However, you can go more crazy if you want. Look at how far this shop went with decorating their waffles:
การเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์จะไปไม่ถึงเลย ถ้าคุณไม่ได้ลองวาฟเฟิลที่นี่ วาฟเฟิลที่นี่มีชื่อเสียงมาก พูดง่ายๆคือวาฟเฟิลเป็นซิกเนเจอร์หลักของที่นี่เลยก็ว่าได้ : 'Brusselse วาฟเฟิล' วาฟเฟิลที่นี่จะมีทรงสี่เหลี่ยม ลายตารางแผ่นใหญ่มากๆคะ ทำกันสดๆไม่แข็งกระด้างเหมือนบ้านเรา แป้งนุ่มมากกกก ส่วนท็อปปิ้งก็จะราดด้วยวิปปิ้งครีมสตรอเบอร์รี่หรือน้ำตาล แต่จริงๆแล้วมีหลายท็อปปิ้งให้เลือกเยอะมาก ต้องไปลองคะ นี่ยกนิ้วให้เลย อร่อยจริง
Manneken Pis ("The Peeing Boy")
Another iconic cultural symbol of Belgium is "Manneken Pis" or "The Peeing Boy". Manneken Pis was at first a fountain that played an essential role in the city's water supply since the 15th century. Towards the end of the 17th century, the iconic symbol became more and more important in the city life. It was also a survivor of the bombardment of Brussels in 1695. During big events, the little boy is dressed with special outfits that suit the occassion. I was told that in the 18th century, Manneken Pis was dressed at least 4 times a year. Currently, the statue is scheduled to be dressed up at least 23 times per year. Throughout the years, the little boy statue became an image and symbol of the Brussels folklore, the joy of the inhabitants and their capacity of self-mockery.
อีกสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศเบลเยียมคือ "แมนเนเกนพิส" หรือ "เด็กชายกำลังปัสสาวะ" รูปปั้นเด็กคนนี้นำความสุขมาให้ชาวเบลเยียมอย่างมากมาย เดิมประติมากรรมนี้เป็นน้ำพุหนึ่งในหลายๆ ชิ้นที่กระจายตัวอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ คอยมอบน้ำดื่มให้กับคนในท้องถิ่น สี่ศตวรรษถัดมา หรือปัจจุบันนี้ รูปเด็กยืนฉี่คนนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชาวเมืองมักจะจับเด็กน้อยแต่งตัวในชุดต่างๆ ที่สวยงามเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทั้งในท้องถิ่นและระดับโลก
Manneken Pis เป็นประติมากรรมเล็กๆ แต่มีความสำคัญมาก คุณอาจเอาขวดมารองน้ำ "ฉี่" ของเขาหรือเอาน้ำนั้นมาล้างหน้าและมือเพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบชาวบรัสเซลส์แท้ๆ
ประติมากรรมนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสตลอดทั้งปี เสื้อผ้าเหล่านี้ได้มาเป็นของขวัญจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือบางครั้งก็เลือกมาจากคอลเล็กชันอันหลากหลายเพื่อเฉลิมฉลองวันพิเศษ ตู้เสื้อผ้าของเด็กน้อยผู้นี้มีชุดต่างๆ กว่า 800 ชุด หากมาเยือนในช่วงคริสต์มาส คุณจะได้เห็นเด็กชายในชุดซานตาคลอสด้วย ในโอกาสที่พิเศษจริงๆ ชาวเมืองจะนำถังเบียร์มาแทนที่ภาชนะบรรจุน้ำเพื่อให้เด็กชายแจกจ่ายเบียร์ให้กับผู้มาเยือนอย่างเต็มที่
Manneken Pis ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรัสเซลส์ และสามารถเดินไปถึงได้จากโรงแรมในเมืองหลายแห่ง ถ้าเดินทางมาด้วยรถไฟความเร็วสูง ให้ลงที่สถานีกลาง มีพื้นที่จอดรถแบบชำระเงินบนถนนใกล้เคียง คุณสามารถมาชม Manneken Pis เมื่อใดก็ได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
Please UPVOTE if you like this post!